> SET > TRUE

11 พฤษภาคม 2023 เวลา 19:14 น.

TRUE ระส่ำ! รูด 5% บล.เมย์แบงก์นำร่องแนะ “ขาย”

#TRUE #ทันหุ้น - หุ้น TRUE ปิด 7.70 บาท ลดลง 5.52% บล.เมย์แบงก์ ปรับลดคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ขาย” ลดราคาเหมาะสมลงจาก 9.23 บาท เป็น 7.60 บาท ปรับลดคาดการณ์ผลงานปี 66 จากกำไร 1.1 พันล้านบาท เป็นขาดทุน 4.6 พันล้านบาท บล.หยวนต้าระบุไตรมาส 1/66 งบเสมือน TRUE ขาดทุน 492 ล้านบาท เทียบเป็นผลงานปกติ จะขาดทุน 1.8 พันล้านบาท จับตาความเสี่ยง Synergy เกิดช้า ใช้เวลา 6-12 เดือนในการลดต้นทุน ยังคงเป้าราคาหุ้น 10.40 บาท บล.อินโนเวสต์เอ็กซ์ ระบุผิดหวังที่TRUE ตั้งเป้าปี 66 ไม่ได้สะท้อนภาพเชิงบวก มีแต่ทรงตัวกับติดลบ เป้า EBITDA บ่งชี้ว่าค่าใช้จ่ายในการควบรวมธุรกิจจะสูงกว่าที่คาด คงเป้าราคา 9.50 บาท


ภายหลังจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE แจ้งผลประกอบการ 1 เดือนหลังควบรวม DTAC และรายงานว่าผลประกอบการไตรมาส 1/66 ขาดทุนสุทธิ 492 ล้านบาท โบรกเกอร์ออกมาวิเคราะห์ถึงผลประกอบการที่แท้จริงเมื่อเทียบเป็นงวดไตรมาส 1/66 บล.หยวนต้าระบุว่าหากเทียบเป็นผลการดำเนินงานปกติจะขาดทุน 1.8 พันล้านบาท ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น TRUE วันที่ 11 พ.ค. ลดลงแรงจาก 8.05 บาทลงไปต่ำสุดที่ 7.65 บาท และปิดตลาด 7.70 บาท ติดลบ 0.45 บาท หรือ -5.52% มูลค่าการซื้อขาย 1,260 ล้านบาท สะท้อนความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่อหุ้น TRUE


บล.เมย์แบงก์ ระบุในบทวิเคราะห์วันที่ 11 พ.ค. ว่า “ไตรมาส 1/66 ขาดทุนสุทธิหลัก 2.0 พันล้านบาท ลดคำแนะนำหุ้น TRUE จาก “ถือ” เป็น "ขาย"  ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 7.60 บาท (เทียบกับราคาเป้าหมายเดิมที่ 9.23บาท) มี downside 7% จากราคาตลาด โดย TRUE รายงานผลขาดทุนสุทธิหลักที่ 2.0 พันล้านบาทในไตรมาส 1/66จากรายได้ที่อ่อนแอ (-1.8% YoY, -2.0% QoQ) ส่งผลให้เราปรับประมาณการปี 66จากกำไรหลัก 1.1 พันล้านบาท เป็นขาดทุนหลัก 4.6 พันล้านบาท คาดว่าตลาดจะหันมาปรับลดคาดการณ์กำไรในเร็วๆ นี้เช่นกัน หุ้นเด่นสำหรับอุตสาหกรรมเทเลคอม ยังคงเป็น ADVANC (แนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 240บาท)


ผลประกอบการไตรมาส 1/66น่าผิดหวังจากรายได้ที่อ่อนแอ

TRUE รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/66ขาดทุนสุทธิ 492 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการเคลมประกัน (350 ล้านบาท) และการยุติคดีความ (1.2พันล้านบาท) ผลขาดทุนสุทธิหลักในไตรมาส 1/66จะอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท (เทียบกับกำไรหลัก 1.3พันล้านบาท ในไตรมาส 1/65 และขาดทุนหลัก 19พันล้านบาท ในไตรมาส 4/65) รายได้จากบริการหลักในไตรมาส 1/66 อ่อนแอ ( -2.0% YoY, -1.7% QoQ) เนื่องจากรายได้จากธุกิจมือถือ/FBB/เพย์ทีวีลดลง 1.7%/0.9%/1.9% QoQ ตามลำดับ


รายได้ไตรมาส 1/66ที่อ่อนแอ ทำให้เราหั่นประมาณการกำไรลง

เราปรับประมาณการปี 66จากกำไรปกติ 1.1 พันล้านบาท เป็นขาดทุนปกติ 4.6พันล้านบาท สาเหตุหลักมาจากคาดการณ์รายได้ลดลง 2.3% โดยเราคาดการณ์รายได้จากบริการหลักในปี 66 จะเติบโตที่ 0.8%ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายรายได้ของบริษัทในปีนี้ที่คาดว่าจะทรงตัว นอกจากนี้ เรายังคาดการณ์ว่าปี 67 จะขาดทุนปกติที่ 2.1 พันล้านบาท (เทียบกับที่คาดไว้ก่อนหน้าที่กำไร 3.4 พันล้านบาท) และกำไรหลักปี 68ที่ 518 ล้านบาท (เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่กำไร 8.3พันล้านบาท) หลังจากปรับลดประมาณการรายได้ปี 67-68 ลง 3-4%


คาดตลาดจะปรับลดประมาณการกำไรลงเช่นกัน

จากงบไตรมาส 1ที่น่าผิดหวัง เราคาดว่านักวิเคราะห์ทั้งตลาดจะปรับลดประมาณการกำไรลงเช่นกัน ทั้งนี้ เราคาดว่าผลขาดทุนสุทธิหลักจะเพิ่มขึ้นจาก 117 ล้านบาท ในปี 65 (ผลขาดทุนของ TRUEE และ DTAC เก่า) เป็น 4.6 พันล้านบาท ในปี 66 (เทียบกับตลาดคาดการณ์ผลขาดทุน 384 ล้านบาท) เนื่องจากค่าใช้จ่าย D&A เพิ่มขึ้น 4.7% YOY และต้นทุนในการรวมธุรกิจ 1.6พันล้านบาท ในปี 66 เราคาดว่าผลขาดทุนหลักในไตรมาส 2/66จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้ทรงตัวและอัตราค่าไฟฟ้า (ค่า Ft) ลดลงในเดือน พ.ค.


บล.หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์วันที่ 11 พ.ค.ว่า “ยังไม่เห็นผลลัพธ์ของ Synergy คาดเริ่มชัดใน 2H66”

งบการเงินที่รายงานโดยผู้สอบบัญชีใน 1Q66 ของ TRUE เป็นงบของ New Co เพียง 1 เดือน เพราะบริษัทมีการรวมกันเพียง 1 เดือน อย่างไรก็ดีใน MD&A บริษัทได้แสดงงบการเงินเสมือนในกรณีที่สมมติให้บริษัทรวมกันเต็มไตรมาส เราเลือกวิเคราะห์งบเสมือนใน 1Q66 ซึ่งเป็นตัวแทนของแนวโน้มผลประกอบการทั้งไตรมาสหลังการควบรวมกิจการที่ดีกว่า ดังนี้


TRUE (NewCo) ผลประกอบการ 1Q66 (งบเสมือน) ขาดทุนสุทธิที่ 492 ล้านบาทอย่างไรก็ดีมีรายการ Other items อยู่ราว 1.36 พันล้านบาท ซึ่งโดยปกติรายการดังกล่าวจะรวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยน และรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว หากเราตัดรายการดังกล่าวออกและสมมติให้เป็นรายการพิเศษ ผลประกอบการปกติใน 1Q66 ขาดทุน 1.8 พันล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับขาดทุน 4.8 พันล้านบาทใน 4Q65 แต่อ่อนแอลงเทียบกับกำไร 860 ล้านบาท ใน 1Q65


ธุรกิจมือถือ Service revenue ex. IC อยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท (-1.7%QoQ, -2.5% YoY) ตลาด Prepaid Netadd + 698K QoQ แต่ ARPU -4.3% QoQ อ่อนแอกว่า ADVANC ที่ -2.4% QoQ ตลาด Postpaid Netadd -21K ARPU -0.3% QoQ ดีกว่า ADVANC ที่ -1.3% QoQ ในไตรมาสนี้ ARPU TRUE ฟื้นตัวช้ากว่า ADVANC กดดันรายได้บริการมือถือให้ลดลง YoY อ่อนแอกว่า ADVANC ที่เติบโต 1.4% YoY

รายได้ธุรกิจ Online อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท (-0.9%QoQ, -2.3% YoY) Netadd ทำได้ +13K ARPU -1.3% QoQ

รายได้ธุรกิจ Pay TV อยู่ที่ 1.7 พันล้ำนบาท (-1.9% QoQ, -1.6% YoY)

อัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มอยู่ที่ 21.4% (+258 bps QoQ, -242 bps YoY)

SG&A อยู่ที่ 7.9 พันล้นบาท (-7.7%QoQ, +9.0% YoY) ยังไม่เห็นผลลัพธ์ของการลดต้นทุนซ้ำซ้อน

EBITDA อยู่ที่ 1.9 หมื่นล้ำนบาท (+9.0% QoQ, -9.0% YoY)


TRUE ให้ Guidance สำหรับ 10 เดือนในปี 2566 หรือตั้งแต่จัดตั้งบริษัทใหม่ แบ่งเป็น 1) Service revenue ex. IC ทรงตัว YoY 2) EBITDA ทรงตัวถึงลดลง Single digit YoY และ 3) CAPEX ที่ 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท

เราไม่แปลกใจที่ Synergy ยังไม่เกิดขึ้นใน 1Q66 เพราะเพิ่งรวมกิจการไปเพียง 1 เดือนเท่านั้น เราคาดจะเห็น Synergy มากขึ้นตั้งแต่ 2H66 และจะเห็นชัดเจนในปี 2567 อย่างไรก็ดีผลขาดทุนใน 1Q66 ทำให้ประมาณการปี 2566 มีกำไรปกติ 3.5 พันล้านบาทของเรามีความท้าทาย และมีโอกาสเกิด Downside Risk เราจะพิจารณาความเหมาะสมของประมาณการอีกครั้งในช่วง preview ผลประกอบการ 2Q66


สำหรับ Guidance ปี 2566 เป้าหมาย Service revenue ex. IC และ EBITDA ไม่เติบโต YoY คาดจะสร้างผิดหวังให้กับตลาด เนื่องจากตลาดจะกังวลว่า Synergy มีโอกาสเกิดขึ้นช้ากว่าคาดหรือไม่ในแง่ดี CAPEX ที่ระดับ 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่า CAPEX รวมของ TRUEE และ DTAC เดิมรวมกันที่ราว 3.5-4.0 หมื่นล้านบาทต่อปีอย่างมีนัยยะ

เราคงประมาณการ และราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 10.40 บาทต่อหุ้น อิง Sum of the part เราคาดหุ้นตอบสนองเชิงลบก่อนจากผลขาดทุนและความเสี่ยงที่ Synergy จะเกิดช้า


อย่างไรก็ดีการลงทุนใน TRUE เป็นการลงทุนระยะยาวโดยนักลงทุนต้องคาดหวัง Synergy ให้เกิดขึ้นระดับ 1-2 หมื่นล้านบาทต่อปี หนุนให้เกิดกำไรส่วนเพิ่ม และต้องให้เวลาผู้บริหารในการทำให้เกิดขึ้น ซึ่งเราคาดว่าบริษัทจะต้องการเวลาอย่างน้อย 6-12 เดือนในการลดต้นทุน ดังนั้นเชิงกลยุทธ์ ช่วง 1H66 เราชอบ ADVANC มากกว่า TRUE เพราะได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่ลดลงโดยตรงและไม่ต้องลุ้นกับการลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อน


ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) การแข่งขันด้านราคากลับมารุนแรงอีกครั้ง 2) ความเลี่ยงด้านกฏเกณฑ์ และ 3) Synergy เกิดขึ้นได้ช้ากว่าคาด


บล.อินโนเวสต์เอ็กซ์ ระบุในบทวิเคราะห์หุ้น TRUE วันที่ 11 พ.ค.ว่า “1Q66: ผลประกอบการน่าผิดหวัง” เราคาดว่าราคาหุ้น TRUE จะตอบรับเชิงลบหลังจากบริษัทรายงานขาดทุนสุทธิใน 1Q66 แทนที่จะรายงานกำไรตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ยังมองว่า เป้าหมายทางการเงินก็ไม่ได้สะท้อนภาพเชิงบวกมากนักเนื่องจาก TRUE ตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้จากการเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ในระดับทรงตัว แม้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ยังคงคำแนะนำ tactical call สำหรับ TRUE ไว้ที่ NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธิ DCF ที่ 9.50 บาท แต่เราเล็งเห็น downside ต่อราคาเป้าหมายของเรา โดยจะทบทวนสมมติฐานอีกครั้งหลังการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 11 พ.ค.


รายงานขาดทุนสุทธิใน 1Q66 : จะแสดงตัวเลขผลประกอบการ 1Q66 ตามงบการเงินเสมือนซึ่ง TRUE เปิดเผยไว้ใน MD&A เนื่องจากการควบรวมกิจการเสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันที่ 1 มี.ค. TRUE รายงานขาดทุนสุทธิ 492 ล้านบาท ใน 1Q66 ปรับตัวดีขึ้นจากขาดทุน 9.9 พันล้านบาท ใน 4Q65 แต่แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญจากกำไร 1.4 พันลบ. ใน 1Q65 แม้ไม่มีประมาณการผลประกอบการ 1Q66 ของ consensus แต่คาดว่าผลขาดทุนดังกล่าวจะสร้างความผิดหวังให้กับตลาด เนื่องจากตลาดคาดการณ์ไว้ว่า TRUE จะรายงานกำไรสุทธิ สาเหตุหลัก คือ รายได้ที่ลดลงในทุกธุรกิจ เราเล็งเห็น downside ต่อประมาณการกำไรปี 2566 ของเราที่ 3.1 พันลบ. TRUE จัดประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 11 พ.ค.นี้


การแข่งขันที่รุนแรงส่งผลทำให้รายได้อ่อนแอ : รายได้จากการให้บริการในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ (60.5% ของรายได้รวม) อยู่ที่ 3.11 หมื่นล้านบาท ลดลง 1.7% QoQ และ 2.5% YoY โดยมีสาเหตุหลักมาจาก ARPU ที่ลดลงจากการแข่งขันที่รุนแรง จำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นสุทธิอยู่ที่ 677,000 ราย โดยได้แรงหนุนจากผู้ใช้บริการระบบเติมเงินที่เพิ่มขึ้น 698.000 ราย ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดอยู่ที่ 50.5 ล้านราย ณ 1Q66 โดยจำนวนผู้ใช้บริการ 5G อยู่ที่ 6.3 ล้านราย รายได้จากการให้บริการในธุรกิจออนไลน์ (10.9%) อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท ลดลง 0.9% QoQ และ 2.3% YoY การปรับตัวลดลง QoQ และ YoY มีสาเหตุมาจากการแข่งขันที่สูงเช่นเดียวกัน รายได้จากการให้บริการในธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก (3.2%) อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 1.9% QoQ และ 1.6% YoY


โครงสร้างต้นทุนปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายอยู่ที่ 3.22 หมื่นล้านบาท ลดลง 10.3% QoQ และ 5.2% YoY ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายอยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.4% YoY มีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่าย SG&A อยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท ลดลง 7.7%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 9% YoY การปรับตัวลดลง QoQ เกิดจากปัจจัยฤดูกาล ในขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY เกิดจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ


เป้าหมายปี 2566 ไม่ได้สะท้อนภาพเชิงบวก : TRUE ตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้จากการเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ในระดับทรงตัว ในขณะที่ EBITDA จะอยู่ในระดับทรงตัวถึงลดลงด้วยตัวเลขเดียวในระดับต่ำ เงินลงทุนจะอยู่ที่ 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท เป้าหมายดังกล่าวทำให้เรารู้สึกผิดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านรายได้ เนื่องจากบริษัทตั้งเป้ารายได้ในระดับทรงตัว ในขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เป้า EBITDA บ่งชี้ว่าค่าใช้จ่ายในการควบรวมธุรกิจจะสูงกว่าที่คาด


ปัจจัยเสี่ยงและความกังวล กลยุทธ์การตั้งราคาเพื่อปฏิบัติตามมาตรการเยียวยาของ กสทช. ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือน มิ.ย.


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X