#OR #PTG #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทยมอง หุ้นกลุ่มค้าปลีกน้ำมันน่าสนใจ จากปัจจัยบวกแนวโน้มค่าไฟฟ้ามีโอกาสปรับลดลง และค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกที่ดีขึ้น แม้ปัจจัยเสี่ยงอยู่ที่การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่อาจจะถูกส่งผ่านไปยังค่าการตลาด โบรกเกอร์หลายรายให้คำแนะนำ “ซื้อ” ทั้ง OR และ PTG ให้ราคาที่เหมาะสม OR ช่วง 24-29 บาท และ PTG ที่ 15.00-18.80 บาท โดยบล.ดีบีเอสฯ แนะนำ “ถือ” ให้ราคาเหมาะสม 24 บาทและ 15 บาทตามลำดับ

บล.กรุงศรีพัฒนสิน ระบุว่า การที่รัฐผ่อนปรนการคุมค่าการตลาดน้ำมันดีเซลตั้งแต่กลางเดือน ก.พ.66 เป็นตัวลดแรงกดดันด้าน downside แต่เปิดโอกาส upside ได้ คงราคาเหมาะสม PTG 17.00 บาท แนะนำ Trading Buy โดยมองเป็นโอกาสทยอยสะสม รองรับสถานการณ์ของค่าการตลาดน้ำมัน และธุรกิจ palm complex ทยอยดีขึ้นในไตรมาส 2/66 เป็นต้นไป ส่วนหุ้น OR คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 26.00 บาท มีกำไรที่ผ่าน bottom ไปแล้ว แนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องทั้งปริมาณขายและอัตรากำไรในไตรมาส 2/66-4/66 และปลอดภัยกว่ากลุ่มโรงกลั่น ที่เผชิญการปรับฐานของค่าการกลั่น

บล.กสิกรไทย ระบุว่ายังมีช่องว่างอยู่มากสำหรับการผ่อนคลายค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกเมื่อรัฐบาลใหม่เข้าดำรงตำแหน่ง ดังนั้น ความเสี่ยงที่สำคัญตอนนี้ คือ ค่าแรงที่สูงขึ้น แม้ว่าความเสี่ยงด้านนโยบายที่เกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมันยังคงมีอยู่ แต่ก็ไม่ซับซ้อนเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ  ส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันดีเซล 10 ppm และ 500 ppm บอกถึงค่าการตลาดดีเซลของจริงในไตรมาส 2/66อาจดีขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่เปลี่ยนแปลง QoQ

นักลงทุนควรกลัวความไม่แน่นอนของนโยบายหรือไม่?

สำหรับธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน เราคิดว่านักลงทุนไม่ควรกังวลว่ารัฐบาลใหม่จะกลับไปแทรกแซงค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกแต่ควรจะกังวลกับการปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำแทน ทั้งนี้ โดยแตกต่างจากธุรกิจที่ถูกกำกับอื่นๆ ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันได้เปิดเสรีมากว่า 30ปีแล้ว ซึ่งราคาน้ำมันขายปลีกถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน รวมถึงสภาวะการแข่งขันในตลาด ขณะเดียวกัน ก่อนที่การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จะเสร็จสิ้น ซึ่งอาจเป็นในอีก 2เดือนข้างหน้า เราคาดว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (เฉพาะบัญชีน้ำมัน) จะกลับสู่จุดสมดุล

ดังนั้น ด้วยสภาวะราคาน้ำมันในปัจจุบัน รัฐบาลชุดใหม่สามารถใช้เงินที่จัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันส่วนเกินมาลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงได้ถึง 5-6 บาท/ลิตรแต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมัน แต่ในทางกลับกัน ความพยายามในการลดค่าไฟฟ้าของรัฐจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันด้วยเช่นกัน

การวิเคราะห์ความอ่อนไหว เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยสำคัญดังกล่าว เราได้ทำการวิเคราะห์ความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าการตลาดน้ำมันขายปลีก ค่าแรงขั้นต่ำ และค่าไฟฟ้า โดยสรุป เราคิดว่า ผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะมีน้ำหนักมากกว่า ผลประโยชน์จากค่าไฟฟ้าที่ลดลง อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงที่ค่าแรงขั้นต่ำจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น แต่ว่าประโยชน์ที่ได้รับจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงอาจสามารถเกิดขึ้นได้ทันทีในไตรมาส 4/2566 นอกจากนี้ เราคาดว่าผู้ประกอบการจะร้องขอให้รัฐบาลใหม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการส่งผ่านต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้นไปยังค่าการตลาดในท้ายที่สุด

ค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกของ สนพ. บอกอะไรบ้าง?

อ้างอิงจากค่าการตลาดขายปลีกน้ำมันที่จัดทำโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลพุ่งขึ้นเป็น 2.03 บาท/ลิตร QTD เพิ่มขึ้น 0.37 บาท/ลิตร (QoQ) แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าค่าการตลาดที่แท้จริงของผู้ประกอบการจะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าของ สนพ. เนื่องจาก สนพ. ใช้ราคาน้ำมันดีเซลเกรด 10 ppm ในการคำนวณราคาหน้าโรงกลั่นสำหรับน้ำมันดีเซล ขณะที่โรงกลั่นใช้น้ำมันดีเซลเกรด 500 ppm บวกกับค่าปรับปรุงคุณภาพเพื่อกำหนดราคาหน้าโรงกลั่นที่แท้จริง

ดังนั้น ส่วนต่างปัจจุบันระหว่างน้ำมันดีเซลเกรด 10 ppm และ 500 ppm จึงบอกเราว่าค่าการตลาดน้ำมันดีเซลที่แท้จริงของผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันอาจดีขึ้นเพียงเล็กน้อย หรือแทบไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในทางกลับกัน ค่าการตลาดที่ดีขึ้นจริงๆจะเป็นในส่วนน้ำมันเบนซิน

คงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มพลังงาน ยังคงชอบกลุ่มธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน แม้ว่าความเสี่ยงด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมันยังคงมีอยู่ แต่ก็ไม่ซับซ้อนเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีช่องว่างอีกมากสำหรับการผ่อนคลายค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกเมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามารับตำแหน่ง ดังนั้นเราคาดว่าผลกระทบจะสามารถจัดการได้ จากที่กล่าวมานี้ เราจึงคงมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน และคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ PTG (ราคาเป้าหมาย 16.20 บาท) และ OR (ราคาเป้าหมาย 25.50บาท) เช่นเดิม

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1