#BGC #ทันหุ้น – BGC แย้ม Q2/2566 ฟอร์มแจ่ม ขานรับดีมานด์ขวดแก้วและฉลากฟื้นตัว พร้อมตั้งเป้าปั๊มยอดขายแตะ 2.5 หมื่นล้านบาท ในปี2568 หลังรุกเจาะตลาด-อัพฐานเต็มพิกัด บิ๊ก “ศิลปะรัตน์ วัฒนเกษตร” วางหมากเดินหน้าลดตัวเลขการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593
นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วและแพ็กเกจจิ้งรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลงานในไตรมาส2/2566 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากทิศทางความต้องการขวดแก้วและฉลากปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งบริษัทยังบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 55.55 ล้านบาท เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 มิถุนายน 2566
*บริษัทใหม่หนุน
ขณะเดียวกันล่าสุดทาว BGC ได้เข้าซื้อกิจการ"ไพร์ม แพ็คเกจจิ้ง" ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนและม้วนฟิล์ม เพื่อขยายธุรกิจ Flexible Packaging คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในเมษายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งแต่เดิมบริษัทดังกล่าวสร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ทำให้ทาง BGC คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตไม่ต่ำกว่าระดับดังกล่าวได้ และกลายเป็นอีกปัจจัยช่วยเสริมความสามารถในการดำเนินงานและสนับสนุนทิศทางบการเติบโตของ BGC ในระยะยาว
ขณะที่ปีนี้ทาง BGC วางงบขยายการลงทุนรวมในปีนี้ 1.5-1.6 พันล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนเพื่อใช้ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเตาหลอมแก้ว 2 เตาและการลงทุนขยายธุรกิจในรูปแบบ M&A รวมประมาณ 1.2 พันล้านบาท การสั่งซื้อเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ภายในโรงงานอีก 300-400 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นและการเติบโตในอนาคตเพิ่มเติมด้วย
*ยอดขาย 2.5 หมื่นล.
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแนวโน้มมองหาการร่วมทุน (M&A) อื่นๆ ต่อเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาสขยายการลงทุนในกลุ่มบรรจุภัณฑ์แก้วและกลุ่มแพ็กเกจจิ้ง ดังนั้น บริษัทจึงตั้งเป้าหมายว่าแผนงานเติบโตในระยะยาวนั้นในปี 2568-2569 มีเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท
ส่วนแนวโน้มความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในช่วงที่เหลือของปี 2566 บริษัทมองว่าจะทยอยเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมที่กำลังฟี้นตัว บริษัทจึงตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายในปี 2566 เติบโต 10% โดยปัจจัยบวกต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566
*ลดคาร์บอน
อย่างไรก็ดี ทาง BGC ได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ 5 ปีข้างหน้านับจากนี้ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในนั้นจะมีด้าน ESG คือการควบคุมการปล่อยคาร์บอน ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งสำคัญในอนาคต รองรับในการดำเนินธุรกิจกับลูกค้า
โดยบริษัทได้วางเป้าหมายที่จะลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 จากเดิมบริษัทปล่อยคาร์บอนปีละกว่า 7 แสนตัน แบ่งเป็นจากธุรกิจแก้วอยู่ที่กว่า 7.1 แสนตัน หรือ 98% ส่วนในแง่ของตัวเลขสัดส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์
ขณะที่แนวทางการลดคาร์บอน จะดำเนินการ 3 ช่วง ในระยะสั้นปี 2564-2568 จะลดลง 10% ในระยะกลางช่วงปี 2569-2573 30% และในระยะยาวช่วงปี 2574-2593 จะลดลงให้เป็นศูนย์ ซึ่งแนวทางจะดำเนินการโดยการพัฒนาการผลิตสินค้าให้มีประสิทธิภาพ, หันไปใช้พลังงานสะอาด และนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการบริหารจัดเพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม