#ทันหุ้น - ความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ น่าจะเริ่มเบาบางลง หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มเผชิญกับภาวะถดถอย เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณในการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในภาวะทรง ๆ รอปัจจัยใหม่ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงการปรับฐานกำลังซึมซับปัจจัยกดดันต่าง ๆ การแกว่งตัวของดัชนีแม้จะมีความผันผวนรุนแรงบ้าง เบาบ้าง แต่ก็ยังมีแรงซื้อสู้ในจุดที่ดัชนีลดลงต่ำกว่า 1,500 จุด ซึ่งเป็นจุดรับสำคัญ ที่หากหลุดแล้วทิศทางตลาดหุ้นไทยจะดูแย่กลับมาฟื้นตัวได้ยาก อย่างไรก็ตามการลงทุนช่วงนี้ยังต้องใช้ความระมัดระวัง รอบคอบ ไม่หุนหันพลันแล่น

หุ้นพิมพ์นิยม หุ้นขวัญใจนักลงทุนอย่างAOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ล่าสุดเปิดเผยผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/2566(สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2566) บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,860.53 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 156.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 11,095.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 213.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินเพิ่มขึ้น จากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศของท่าอากาศยาน 6 แห่ง ช่วงเวลา 6 เดือน (ต.ค.65 - มี.ค. 66) มีจำนวนเที่ยวบินรวม 314,083 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 91.06% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีจำนวนผู้โดยสารรวม 49.46 ล้านคน เพิ่มขึ้น 211.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะมองว่าราคาหุ้น AOT ที่ปรับขึ้นมาแล้วนั้นสูงแพงไปแล้วหรือไม่ หากย้อนกลับไปก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิด ราคาหุ้นตอนนี้แทบจะไม่แตกต่างกันแล้วแน่นอนว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้วนั่นเอง บวกกับมีปัจจัยสนับสนุนเรื่องการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวเลยเป็นแรงกระตุ้นให้ AOT มีการซื้อขายกันอย่างคึกคัก ที่ว่าแพงก็บอกว่าแพงได้อีก ก็อยู่ที่นักลงทุนครับว่าจะมองอนาคตและให้ค่าความคาดหวังและรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยังคงยืนยันครับว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนี้ที่ดีเยี่ยม ธุรกิจแทบจะผูกขาดไร้คู่แข่งขัน ยิ่งนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ AOT ก็ยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่านั้นครับ

ถ้าหากเป็นนักลงทุนที่มีเงินเย็นๆ เน้นการลงทุนอย่างแท้จริงจะทยอยเก็บสะสมหุ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งช่วงราคาย่อลงก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร นี่ล่ะครับสิ่งที่นักลงทุนจำต้องศึกษาเอาไว้ ว่าหุ้นพื้นฐานดีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร ราคาที่ดูเหมือนแพงแต่ก็ยังมีนักลงทุนกล้าที่จะเข้าซื้อด้วยความเชื่อมั่นที่มาจากพื้นฐานของหุ้น รวมทั้งผลประกอบการก็ออกมาดีมีการเติบโตขึ้น ไม่ใช่ราคาที่เคลื่อนไหวขึ้นลงบนกระดาน หรือกระแสข่าวสารที่ขาดข้อเท็จจริง ที่สร้างภาพลวงตาให้เราเข้าไปติดกับดักสร้างความเสียหายกับการลงทุนครับ

สำหรับตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้จะสามารถเดินหน้าไปต่อ หรือจะพักตัวปรับฐานแกว่งตัวแบบนี้ต่อไปหรือไม่ คงต้องอยู่ที่หลายปัจจัยที่จะมีเข้ามาทั้งในเชิงบวกสนับสนุน หรือเชิงลบเข้ากดดัน จากทั้งภายในและนอกประเทศ อย่างไรก็ตามเราที่เป็นนักลงทุนในตลาดคงไม่สามารถทิ้ง หรือออกไปจากตลาดได้ จำเป็นต้องอยู่สู้กันต่อในสนามหุ้นแห่งนี้ ในฐานะนักสู้ที่เดินลงสู่สนามแล้ว ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นกระทิงหรือหมี สิ่งสำคัญที่จะทำให้สามารถยืนอยู่ในสนามได้ ต้องไม่หยุดศึกษาค้นคว้าหาความรู้ใส่ตัว เพิ่มเสริมสร้างเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในการลงทุน และสามารถเอาตัวรอด สร้างความมั่งคั่ง เก็บเกี่ยวผลกำไรให้ได้อย่างที่เราตั้งเป้าหมายในการลงทุนเอาไว้ไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือใหม่ที่เริ่มเข้ามาในตลาดก็ตาม โชคดีครับ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

[email protected] คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1