เรื่องต้องรู้! ลงทุนหุ้นโรงกลั่น ข้อดี-ข้อเสีย นโยบายรัฐบาลใหม่

#ทันหุ้น - บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ส่องหุ้นกลุ่มโรงกลั่น นโยบายรัฐบาลใหม่กระทบไม่มาก โดยการเพิ่มอัตราค่าแรงงานขั้นต่ำเป็น 450 บาท/คน/วัน กระทบด้านลบแต่จำกัด เพราะต้นทุนค่าแรงงานคิดเป็นสัดส่วน 10-13% ของต้นทุนที่เป็นเงินสด (Cash cost) ทั้งหมด ส่วนการลดค่าไฟ 0.70 บาท/หน่วย จะช่วยลดต้นทุนโรงกลั่น 1-2% ของค่าใช้จ่ายในการผลิตรวม (ต้นทุนสาธารณูปโภคคิดเป็น 7-10% ของต้นทุนที่เป็นเงินสด) ดังนั้นผลกระทบต่อกลุ่มโรงกลั่นทั้งด้านลบและบวกค่อนข้างจำกัด

**คาด Q2/66 อ่อนตัวลง

อุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป แต่มีกำลังการผลิตโรงกลั่นใหม่เข้ามาในปีนี้ราว 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้ค่าการกลั่นใน Q2/66 ลดลงจาก Q1/66…ผลประกอบการ Q2/66 จึงมีแนวโน้มแย่ลงเทียบ QoQ สำหรับผลขาดทุนสต็อกมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ใน Q2/66

อย่างไรก็ตาม ค่าการกลั่นปัจจุบันอยู่ใกล้กับจุด bottom ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตแล้ว ประกอบกับระดับสต็อกของสหรัฐและประเทศใหญ่ๆ อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนั้นค่าพรีเมียมน้ำมันดิบก็ลดลง ความเสี่ยงค่าการกลั่นด้านลบจึงเหลือไม่มาก

**ปรับโครงสร้างผลิต Q3/66

โรงกลั่นมีการปรับปริมาณและโครงสร้างการผลิตใน Q3/66 ในช่วงค่าการกลั่นต่ำ โรงกลั่นก็จะผลิตน้อยลง, ปรับโครงสร้างการกลั่นน้ำมัน โดยเพิ่มสัดส่วนการกลั่นน้ำมันที่มีมาร์จิ้นสูง เช่น เบนซิน และลดการกลั่นน้ำมันที่มาร์จิ้นต่ำ เช่น Jet, ดีเซล ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ค่าการกลั่นก็จะเข้าใกล้ค่าการกลั่นสิงคโปร์ (Singapore GRM) มากขึ้น โดยปัจจุบันค่าการกลั่นสิงคโปร์อยู่ในระดับ 3 ดอลลาร์กว่าๆ ต่อบาร์เรล ใกล้กับช่วงปี 2564

**แนะ Neutral ชู BCP เด่นสุด

คงให้น้ำหนักลงทุน Neutral...โดยมี BCP เป็นหุ้น Top Pick ทั้งนี้แม้ว่า TOP และ SPRC จะมีต้นทุนโรงกลั่นต่ำสุด แต่ Market GRM ก็ต่ำกว่า BCP เมื่อพิจารณา Margin of safety (Market GRM ลบด้วย Breakeven level) สูงสุด คือ BCP (แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 43 บาท คาด DY ปีนี้ไว้ประมาณ 5% ต่อปี)