> เคาะไปคุยไป > SCGP

26 พฤษภาคม 2023 เวลา 07:00 น.

เคาะ SCGP

#ทันหุ้น - SCGP รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 เท่ากับ 1,220.4 ล้านบาท (0.284 บาทต่อหุ้น) ฟื้นตัวแรง +171.6%QoQ (จากฐานที่ต่ำมาก เพราะ 4Q65 มีค่าใช้จ่ายพิเศษและขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน) แต่ยังคงหดตัว -26.4%YoY


เราประเมินกำไรสุทธิปี 66 เท่ากับ 6,550 ล้านบาท ขยายตัว 6.9%YoY โดยเราปรับลดประมาณการลง -12.2% จากการคาดการณ์เดิมที่ 7,468 ล้านบาท เนื่องจาก 1) เรามองว่ารายได้ 1Q66 น้อยกว่าคาด และ 2) ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มมากกว่าคาด จากระดับเฉลี่ย 6.0% ต่อ EBITDA ในช่วงปี 2564-2565 สู่ระดับ 11% ดังนั้น แม้ธุรกิจ SCGP จะดูเหมือนเริ่มฟื้นตัว แต่ยังคงมีหลายปัจจัยกดดันอยู่ ทั้งฝั่งของอุปสงค์สินค้าและต้นทุนต่างๆ เรามองว่าภาคการบริโภคในภูมิภาคอาเซียนยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เรามองว่าธุรกิจ SCGP จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมองว่ารายได้จะค่อยๆ ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจจีน และคาดว่าธุรกิจน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วใน 4Q65


ทั้งนี้ SCGP มีแผนทำ M&P 1-2 กิจการต่อปี เพื่อต่อยอดวิสัยทัศน์กิจการบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในระดับภูมิภาค โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 SCGP ประกาศเห็นชอบการเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วนร้อยละ 70 ของ Starprint Vietnam JSC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้ (Offset folding carton) ที่มีชื่อเสียงในประเทศ เวียดนาม โดยมีมูลค่ากิจการรวมไม่เกิน 1,050 พันล้านดอง หรือประมาณ 1,534 ล้านบาท ในรูปแบบโครงการควบรวมกิจการ (Merger and Partnership: M&P) ธุรกรรมนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 3Q66 ซึ่ง Starprint มีรายได้ปี 2565 คิดเป็น 1,480 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 135 ล้านบาท และเรายังไม่ได้รวมธุรกรรมนี้ในประมานการ ซึ่งปัจจัย M&P ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อผลประกอบการของ SCGP ในระยะกลางและยาว


ราคาปรับตัวลงมากว่า -26.5%YTD สะท้อนภาพปัจจับลบไปมากแล้ว ทั้งจากการประกาศงบปี 4Q65 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดมาก รวมถึงความกังวลจากปัญหา oversupply และการฟื้นตัวของอุปสงค์ในระดับภูมิภาคที่อาจจะช้าจากปัญหาเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เรามองว่าธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว รายได้และกำไรมีโอกาสฟื้นตัวในรายไตรมาสตามลำดับในตลอดปี 2566 หนุนโดยต้นทุนการผลิตที่ทยอยปรับลดลงคงแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับลดราคาเป้าหมายปี 66 ลงเหลือ 57.50 บาท จาก 68.75บาท อิง DCF การปรับลดสะท้อนถึงต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ และอาจจะมีผลกระทบต่อทั้งปีนานกว่าคาด


แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิคแนวโน้มการแกว่งตัวแท่งเทียนเป็นการปรับลงตามกันกับ SMA5 วันที่ทำหน้าที่เส้นแนวต้านขาลงอย่างมีนัยสำคัญ ระดับราคาปรับตัวลงห่างSMAมาก เข้าสู่ภาวะ Over Sold ด้วยแท่งเทียนสีดำยาว(วานนี้) แนวรับระหว่างวันเน้นยืนจุดต่ำแท่งเทียนบริเวณ 39-38.50 แนวรับหลัก 37.25-37 แนวต้าน 40 ยืนเหนือเป็น Key Reversal 


คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ/ซื้อเพิ่ม ทดสอบแนวต้าน 40/42 เป็นจุดพิจารณา

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 39-38.50/37 ไม่ควรต่ำกว่า


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X