นายจรัญพัฒณ์ บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ GLORY ธุรกิจสตาร์ทอัพประเภทแพลตฟอร์ม ด้านวรรณกรรมออนไลน์ (Startup Platform Online) ประกอบด้วย นิยาย การ์ตูน และหนังสือ เปิดเผยว่า คาดภาพผลประกอบการจะกลับมาฟื้นชัดหลังไตรมาส 3/2566 เพราะบริษัทเข้าลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพ กลุ่มนิวโปรดักต์ Line@Alisa AI ที่ทำได้มากกว่า ChatGPT ที่สามารถตอบคำถามถึงปี 2566 สร้างรูปภาพ เขียนบทความ Code รองรับภาษาไทย โดยการลงทุนระยะแรก ยังมีค่าใช้จ่าย ประกอบกับบริษัทเปิดใช้งานฟรีในช่วงก่อนหน้านี้
ประกอบกับการลงทุนธุรกิจ DD II เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และเฮลธ์แคร์ (Lifestyle & Health Care Consciousness) การขายสินค้าในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven มียอดขายจากหน้ากากอนามัยลดลง อีกทั้งสินค้าบางรายการถูกเรียกคืน เพื่อรีแพ็กเกจใหม่ ส่งผลให้ยอดขายจาก DD II ในไตรมาส 1/2566 ลดลง
ขณะที่บริษัท อินฟินิตี้ ทู อินฟินิตี้ จํากัด (INFINITY) ซึ่งบริษัทเข้าลงทุนก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างการดำเนินงาน และยังไม่มีรายได้ ส่งผลให้โดยรวมบริษัทต้องแบกรับค่าใช้จ่าย และรับรู้เป็นผลขาดทุนมาในกลุ่ม GLORY
ส่วนการลงทุนใน Line@Alisa นับจากวันลงทุน จนถึงปัจจุบัน คิดเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน บริษัทมีแผนจะเปิดให้บริการแบบ Subscribe หรือเก็บเงินจากผู้ใช้งานที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ใหม่ หรือปลดล็อกการใช้งานได้มากกว่าเวอร์ชั่นปกติ บริษัทตั้งเป้าจะมียอด Subscribe ปีนี้ที่ 5 พันราย ถึง 5 หมื่นราย หรือคิดเป็นมูลค่า 1.5 ล้านบาท ถึง 15 ล้านบาท
“ต้องยอมรับว่าการลงทุนอะไรก็ตาม ช่วงแรกจะยังมีค่าใช้จ่าย และถ้าไม่มีรายได้เข้ามาทันที จะทำให้ผลประกอบการอาจจะยังเป็นลบ ส่วนในระยะถัดไปธุรกิจที่ลงทุนจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับที่เราลงทุนในLine@Alisa หรือ AI ที่ช่วยให้เราทำงาน หรือมีความคิด ไอเดียใหม่ๆ เกิดขึ้น ช่วงแรกให้บริการฟี แต่ตอนนี้เริ่มมีระบบ Subscribe แล้ว คาดจะมีรายได้เข้ามาหนุนหลังจากที่ลงทุนไป” นายจรัญพัฒณ์ กล่าว
สำหรับการลงทุนสตาร์ทอัพ Line@Alisa ถือเป็นการลงทุนขนาดรายการใหญ่ที่สุด ที่บริษัทเคยทำมา โดยมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 40 ล้านบาท และบริษัทจะโฟกัส พร้อมกับพัฒนาระบบการให้บริการ Line@Alisa ให้เหมาะสมและรองรับการใช้งานจากกลุ่มคนที่ใช้ AI เป็นตัวช่วยในการทำงานและตัดสินใจต่างๆ
นายจรัญพัฒณ์ กล่าวต่อว่า ด้านแผนการลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพ และ SME บริษัทยังคงเป้าการลงทุนเฉลี่ยปีละ 3-4 บริษัท หรือ 8-12 บริษัทภายใน 3 ปี (ปี 2565-2567) แม้จะลงทุนในรายการขนาดใหญ่ อย่างเช่น Line@Alisaในช่วงที่ผ่านมา
บริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ธุรกิจให้บริการวรรณกรรมออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มชื่อ Kawebook.com และ Jinovel.com สำหรับธุรกิจแรกนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มระบบ Subscripiton Model ในการเพิ่มจำนวนฐานผู้อ่าน และในปี 2566 บริษัทมีแผนจะซื้อลิขสิทธิ์นิยาย การ์ตูน เพิ่มจำนวน 70% จากปัจจุบันมีจำนวนลิขสิทธิ์ 230 เรื่อง
2.ธุรกิจส่งออกนิยายไทยที่มีชื่อเสียง มียอดอ่านในประเทศสูง เพื่อเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ โดยเริ่มแปลภาษาอังกฤษก่อนเป็นภาษาแรก นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาแพลตฟอร์มให้รองรับหลายภาษาเพื่อรองรับ Scale Up ไปยังต่างประเทศ
3.ธุรกิจนิวโปรดักต์ ล่าสุดบริษัทซื้อลิขสิทธิ์เกมจากต่างประเทศ และนำมาพัฒนาเพื่อทดลอง และเตรียมเปิดตลาดในประเทศไทย โดยจะเริ่มให้บริการเกมบนมือถือผ่านระบบ IOS และ Android คาดจะเริ่มเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้
และ 4. ธุรกิจการลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพ และ SME ปัจจุบันบริษัทลงแล้วจำนวน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท อินฟินิตี้ ทู อินฟินิตี้ จํากัด (INFINITY) ซึ่งบริษัทเข้าลงทุนในสัดส่วน 40% ธุรกิจ DD II เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และเฮลธ์แคร์ (Lifestyle & Health Care Consciousness) และบริษัท Pixela ซึ่งเป็นธุรกิจด้านออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม