นางสาวพิมพ์กานต์ ปุญญเจริญสิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด(มหาชน) หรือ BE8 เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้มีการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น ก่อนหน้านี้ไปที่เวียดนาม และกำลังขยายไปที่ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดรวมด้านเทคสูงถึง 57 พันล้านดอลลาร์ ใหญ่กว่าตลาดไทย 14-15 เท่า โดยอยู่ระหว่างการทำดีลควบรวม (M&A) คาดจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้
นอกจากนี้บริษัทเตรียมขยายไปสู่ตลาดอาเซียนด้วยเช่นกัน ซึ่งมองโอกาสขยายไปที่ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
สำหรับในประเทศยังเติบโตได้ดี หลังจากที่มีการร่วมทุนกับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ ORI และ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างดีลจัดตั้งบริษัทใหม่ในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับบริษัทที่อยู่ในบริษัทจดทะเบียน 2 ราย
“ภาพโดยรวมของเรายังเติบโตได้ดี แง่ของปัจจัยพื้นฐานยังเหมือนเดิม มีงานสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลง และยังเติบโตตามเป้า ที่เราวางไว้ปีนี้คาดรายได้อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ส่วนแบ็กล็อกอยู่ที่ 2 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างประมูลงานอีก 4 พันล้านบาท คาดว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 50%”
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีมุมมอง Slightly Positive ต่อการประชุมนักวิเคราะห์ในหุ้นบริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 โดยบริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 5 พันล้านบาท คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยในช่วง 3 ปี คือปี 2566-2568 โตเฉลี่ย 84% ต่อปี ซึ่งการเติบโตมาจากทั้ง Organic Growth ที่ยังเติบโตสูง, การขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศ, ทำ Digital JV, Strategic M&A โดยยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายของปีนี้ที่ 91 บาท
ฝ่ายวิจัย ระบุว่าหนึ่งในโฟกัสหลักของ BE8 คือการขยายตลาดไปตลาดต่างประเทศอย่างเต็มตัว โดยบริษัทได้อดีตผู้บริหาร Salesforce มาเป็น CEO บริษัท Beryl8 International เพื่อลุยตลาดต่างประเทศ ซึ่งเฟสแรกจะเริ่มจาก ออสเตรเลียและเวียดนาม ก่อนจะขยายไปเฟสที่ 2 ตลาดอื่นในภูมิภาคอย่าง นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเฟสที่ 3 ทวีปอื่นๆ โดยผู้บริหารมองว่าตลาดออสเตรเลียเป็นตลาดที่ใหญ่ มูลค่าสูง 57 พันล้านดอลลาร์ หรือใหญ่กว่าไทย 14 เท่า และยังมีช่องว่างในตลาดที่เน้นลูกค้าบริษัทขนาดกลาง ที่มีคู่แข่งน้อยราย ซึ่ง BE8 จะไปโฟกัสตรงนั้น
โดยการเริ่มขยายตลาดออสเตรเลีย จะเริ่มจากการทำ M&A บริษัทที่ทำ Digital Transformation ในออสเตรเลียอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทเป้าหมายแล้ว คาดว่าดีลสามารถจบได้ในไตรมาส 4/66 นี้ หากทำ M&A จะแบ่งเป็น 3 Tranche ในระยะเวลา 3 ปีนอกจากนี้บริษัทนี้จะ Outsource งานมาที่ประเทศไทย ซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นหรือ GPM ให้ BE8 อีกทาง
ส่วนการประมูลงานในประเทศ ทิศทางยังคงดีต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีงานในมือหรือ Backlog 2 พันล้านบาท และมี Pipeline ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและประมูลอีก 4.1 พันล้านบาท คาดหวังได้งานไม่น้อยกว่า 50% ซึ่งบริษัทมองว่าหากเศรษฐกิจถดถอย จะไม่ได้กระทบผลการดำเนินงานอย่างมีนัยฯ เพราะยังมีงานจำนวนมากอยู่ในมือแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการทำร่วมทุนหรือ JV ต่อยอดการเติบโต โดยปีนี้ ได้ประกาศการร่วมทุนแล้ว 2 ดีล คือ JV กับ BBIK และ ORI โดยภาพการเติบโตของบริษัทยังคงชัดเจน ทั้งระยะกลางที่ประเมินกำไรในช่วง 3 ปี (2563-2568) เติบโตสูงเฉลี่ย 63% ต่อปี ส่วนระยะสั้นคาดกำไรในปีนี้อยู่ที่ 338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144% จากงานในมือที่แข็งแกร่ง
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม