นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮมพอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกระดับสากล เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/2566 คาดจะดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน เพราะมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เซรามิกที่ใช้บนโต๊ะอาหาร ในกลุ่มครัวเรือนโรงแรม ร้านอาหารมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดจะมีออเดอร์สูงกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน 5-10% ทั้งสินค้าที่ใช้สำหรับบนโต๊ะอาหาร และสินค้ากลุ่มสโตนแวร์ (Stoneware) และของตกแต่งบ้าน ที่มีสัดส่วนมากขึ้น และคาดสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่มสโตนแวร์จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 60%
สำหรับเดือนพฤษภาคมบริษัทมี Backlog ในมือ 114 ล้านบาท ถือเป็นยอด Backlog ปริมาณสูง และมีกำลังผลิตยาวไปถึงไตรมาส 3/2566 ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอรับออเดอร์ผลิตในไตรมาส 4/2566 ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทยังเป็นลูกค้าต่างประเทศ จากอเมริกา ยุโรป รวมกันคิดเป็นสัดส่วน 80% และอีก 20% เป็นสัดส่วนลูกค้าในประเทศ
ส่วนการขายในประเทศมีสัญญาณออเดอร์เพิ่มขึ้น หลังจากเปิดประเทศ และดีมานด์การใช้เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกเพิ่มขึ้น หลังจากร้านอาหารและโรงแรมในประเทศกลับมาเปิดบริการเป็นปกติ โดยบริษัทเจรจากับลูกค้า และอยู่ระหว่างรอคอนเฟิร์มออเดอร์ คาดจะสนับสนุนให้ครึ่งปีหลัง 2566 มีการผลิต และออเดอร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากในครึ่งปีแรก
ทั้งนี้บริษัทมองทิศทางรายได้รวมปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย หรือมีอัตราเติบโตที่ 15-20% โดย 3 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้แล้ว 68.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4.07 ล้านบาท โดยสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือต้นทุนการผลิต และค่าแรงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนผลิตโดยรวมสูงขึ้น
สำหรับแผนกลยุทธ์ในระยะยาวบริษัทจะเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดการใช้พลังงานและเพิ่มปริมาณการผลิต โดยบริษัทได้วางงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 27 ล้านบาท เพื่อขยายเตาเผาบิสกิต โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 15 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นการพัฒนาอาคารและเครื่องจักรเสริมในไลน์ การผลิตส่วนอื่น โดยบริษัทได้ยื่นเสนอ BOI ราคาจะเริ่มโครงการได้ในช่วงไตรมาสที่ 2/2566 เป็นต้นไป และคาดว่าในปี 2567 บริษัทจะสามารถทยอยเพิ่มปริมาณการผลิตได้ประมาณ 10-15% และจะเพิ่มไปจนถึง 30-40% ของปริมาณการผลิตเดิม
อย่างไรก็ตามในปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการทำโครงการเกี่ยวกับการช่วยลดต้นทุน โดยมุ่งเน้น 2 ส่วนหลักคือพลังงานและวัตถุดิบ ด้านพลังงานบริษัทได้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปได้เริ่มผลิตและจ่ายไฟฟ้าเมื่อประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2565 โดยมีกำลังการผลิต 400 กิโลวัตต์ ซึ่งหลังจากการใช้งานเต็มที่ในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 สามารถลดหน่วยการใช้ไฟฟ้าของบริษัทแต่ประมาณ 35-40% ของปริมาณเดิม
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม