ส่องพื้นฐาน-เทคนิคลงทุน AOT-BAM-KTC-SPALI

#ทันหุ้น - บล.แลนด์ แอน เฮ้าส์ ออกบทวิเคราะห์ โดยแนะนำ 4 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย ส่องพื้นฐาน-เทคนิคลงทุน AOT-BAM-KTC และ SPALIโดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงกลยุทธ์คำแนะนำในแต่ละหลักทรัพย์

หุ้น AOT แนะนำซื้อ เป้าหมาย 82บ.

- เริ่มพลิกฟื้นกลับมามีกำไรตั้งแต่ Q1/66 (ต.ค.-ธ.ค. 65) 343 ลบ.และกำไร Q2/66 (ม.ค.-มี.ค. 66) ฟื้นตัวแรงถึง 442% QoQ ตามการฟื้นตัวต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวไทย

- ปริมาณผู้โดยสารเม.ย.66 ยังสูงใกล้เคียงกับมี.ค.66 อีกทั้งพ.ค.66 ซึ่งเข้าสู่หน้าฝน แต่ปีนี้ฝนตกน้อยมาก และอากาศร้อนกว่าปกติ จึงคาดกำไร Q3/66 (เม.ย.-มิ.ย. 66) ทรงตัว QoQ แม้เป็น Low season

- ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อ ตามปริมาณนักท่องเที่ยวปีนี้ที่คาดเพิ่มขึ้นเท่าตัว YoY และจะเพิ่มอีกเท่าตัวในปี 67 ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด

- แนวรับ 68.5/70 แนวต้าน 73/74.5

หุ้น BAM แนะนำซื้อ เป้าหมาย 16บ.

- กำไร Q1/66 –69%QoQ เพราะผลของฤดูกาล และกำไร -15%YoY ผลจากต้นทุน+คชจ.ที่เพิ่มขึ้น

- ภาพทั้งปี 66 เป็นบวกมากขึ้น หลังสถาบันการเงินนำหนี้มาประมูลขายมากขึ้น คาดทั้งปีประมูลหนี้ได้เกินเป้า 9 พันลบ.และจะเข้ามากขึ้นในช่วง Q2/66

- คาด Q3/66 เริ่มเห็นทิศทางการฟื้นตัวของการขาย NPL และ NPA รวมถึงความคืบหน้าของธุรกิจใหม่ และ Q4/66 เข้าสู่ช่วง high season + ปรับแผนธุรกิจเน้นเพิ่มกิจกรรมการตลาดและขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น เร่งระบายสต๊อก NPA ช่วยหนุนกำไรทั้งปี 66 ยังโตต่อเนื่อง YoY

- ราคาลงมาลึกเกินพื้นฐาน จนเปิด upside กว้าง

- แนวรับ 10/10.5 แนวต้าน 12/12.6

หุ้น KTC แนะนำซื้อ เป้าหมาย 71บ.

- กำไร Q1/66 +7% YoY เป็นผลจากรายได้รวมที่ยังเพิ่มขึ้น ทั้งรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามยอดลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม

- ความร่วมมือที่เข้มข้นมากขึ้นกับ KTB คาดหนุนยอดสินเชื่อโดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียน “KTC พี่เบิ้ม” ผ่านสาขา KTB กว่า 1 พันสาขาทำได้ตามเป้า 1หมื่นลบ. ในสิ้นปี 66

- มองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยวและบริการที่ดีขึ้นชัดเจนเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยผ่านบัตรเครดิต หนุนกำไรปี 66 ทำนิวไฮต่อเนื่อง

- แนวรับ 50/50.5 แนวต้าน 53/55.5

หุ้น SPALI แนะนำทยอยสะสม เป้าหมาย 25.50บ.

- กำไร Q1/66–8%YoY, -51%QoQ แม้ยอดขาย +5.5%YoY แต่รับผลกระทบต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น หลังมีผู้จองแล้ว ส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบ กดดันGPM ต่ำสุดในรอบ 11 ไตรมาส

- คาดกำไร Q2/66 จะฟื้นตัว QoQ จากต่ำสุดใน Q1/66 หลังทยอยปรับขึ้นราคาโครงการต่างๆ ทั้งโครงการเดิมที่ยังไม่มีผู้จอง และโครงการใหม่ที่เตรียมใน Q2/66 อีก 8.8 พันล้านบาท ให้สอดคล้องกับต้นทุน

- แม้คาดกำไรปีนี้จะลดลงราว -5%YoYแต่เชื่อว่ากำไรผ่านพันจุดต่ำสุดใน Q1/66 ไปแล้ว บวกกับราคาได้ปรับฐานลงมารับข่าวร้ายไปแล้ว จนมี upside 20.8% และมีDiv Yield สูงเกิน 6%

- แนวรับ 20/20.5 แนวต้าน 21.6/22