#BAM #ทันหุ้น- BAM มั่นใจผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2566 (QoQ) ยื่นขออนุมัติบอร์ดลุยซื้อหนี้เต็มงบที่ 1 หมื่นล้านบาท ทั้งยังเร่งปรับกลยุทธ์บริหารจัดการสินเชื่อไม่มีหลักประกัน หนุนศักยภาพการทำกำไร และลดค่าใช้จ่ายทางภาษีลงอย่างต่อเนื่อง
นายรฐนนท์ ฟูเกียรติ ผู้จัดการกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์และบริการผู้ถือหุ้น บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAMคาดการณ์ผลเรียกเก็บงวดไตรมาส 2/2566 ว่ามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2566 (QoQ) หนุนจากการนำทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ร่วมออกบูธในงานต่างๆ, การจำหน่ายทรัพย์ NPAผ่านระบบออนไลน์,รวมถึงการเร่งรัดกระบวนการยึดทรัพย์ของกรมบังคับคดี เพื่อนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ นำไปสู่จัดเก็บเงินสดจากหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อย่างมีประสิทธิภาพ
“เบื้องต้นน่าจะมีลูกค้าที่ติดต่อแสดงความสนใจเข้าซื้อทรัพย์NPA แล้วราว 4 พันล้านบาท ก็ใกล้เคียงกับเป้าผลเรียกเก็บไตรมาส 2/2566 ที่บริษัทตั้งไว้ที่ 4,460 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้ารายย่อย กระตุ้นการตัดสินใจเข้าซื้อทรัพย์ NPAของบริษัทเพื่อไปรีโนเวตขายอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายผลเรียกเก็บทั้งปี 2566 ที่ 1.78 หมื่นล้านบาท หนุนจากผลสำเร็จของการปรับกลยุทธ์การจำหน่ายทรัพย์ NPAเป็นหลัก”
*ลุยซื้อทรัพย์ต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างขออนุมัติคณะกรรมการบริษัท (บอร์ดบริษัท) เข้าร่วมประมูลซื้อทรัพย์โดยเฉพาะหนี้ในกลุ่มธุรกิจ (Corporate Loan) จากสถาบันการเงินเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าทั้งปี 2566 จะใช้งบประมาณแตะกรอบบนที่กว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยตลอดช่วงที่เหลือของปี 2566 บริษัทได้เตรียมความพร้อมยื่นประมูลหนี้ล็อตใหญ่อีกหลายกอง
“ธนาคารพาณิชย์เริ่มนำNPL ออกมาขายมากขึ้นซึ่งก็เป็นไปตามประมาณการ บริษัทเตรียมขออนุมัติบอร์ดเข้าประมูลซื้อ NPLเข้ามาเติมพอร์ตของบริษัทมากขึ้น โดยบริษัทจะยังคงรักษาสมดุลระหว่างสัดส่วนหนี้กลุ่มธุรกิจ และกลุ่มหนี้รายย่อยให้อยู่ในระดับเหมาะสม”
ควบคู่กับการปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการสินเชื่อไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) หนุนศักยภาพการทำกำไร และลดค่าใช้จ่ายทางภาษีลงอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นจะดำเนินการใน 3 แนวทาง คือ 1.ดำเนินการติดตามทวงถามเอง 2.จ้างบริษัทติดตามทวงถาม และ 3.พอร์ตทรัพย์ที่จะตัดขาย
“หากบริษัทสามารถติดตามหนี้ส่วนนี้เข้ามาได้จะเป็นกำไรเกือบทั้งหมด ขณะเดียวกันภาระทางภาษีจ่ายก็จะลดลงด้วย แต่การดำเนินการต้องแบ่งออกมาค่อยๆ ดำเนินการตามความเหมาะสมของหนี้แต่ละส่วน”
แนะ “ถือ” เป้า 14 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์ผลเรียกเก็บงวดไตรมาส 2/2566 ของ BAMมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2566 (QoQ) และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) หนุนจากผลเรียกเก็บสะสมช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2566 ที่ BAMทำได้แล้วราว 90% ของเป้าเรียกเก็บที่วางไว้ที่ 4,460 ล้านบาท (+39% QoQ, +13% YoY)
อย่างไรก็ตามBAM มีแนวโน้มต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นราว 0.15% (15 bps)และอัตราภาษีที่แท้จริงจะเร่งตัวขึ้นจาก 15% ณ สิ้นปี 2565 มาอยู่ที่ราว 20% ในปี 2566 นี้ จึงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2566 ของ BAM ที่ 2,767 ล้านบาท แม้ว่าจะประมาณการผลเรียกเก็บทั้งปี 17,800 ล้านบาท จึงแนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสมที่ 14 บาท พร้อมคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 4.92%
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม