#BLA #ทันหุ้น BLA “โชน โสภณพนิช” มองครึ่งปีหลังธุรกิจดีต่อ ปัจจัยหนุนทั้งการลงทุนผันผวน ลูกค้าหันมาออมกับประกัน ชูตัวเด่น สะสมทรัพย์ เกนฟิสต์ (มีเงินปันผล) ขณะที่ประกันสุขภาพยังโตต่อเนื่อง มีการปรับฟีเจอร์ให้เข้าถึงทุกกลุ่ม ราคาจับต้องได้ โบรกประเมิน ปี66 โตทั้งเบี้ย และกำไร แถม IFRS17 มีผลดี
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA กล่าวว่า คาดว่าภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตครึ่งหลังยังดีเหมือนครึ่งปีแรก ซึ่งในส่วนของบริษัทก็มีทิศทางเดียวกับภาพรวมธุรกิจ โดยปัจจัยหลักไม่เพียงโครงสร้างประชากรไทยที่เป็นสังคมสูงวัยในปัจจุบันหนุนให้เกิดการออมแล้ว ในส่วนของธุรกิจประกันก็มีการพัฒนารูปแบบและความคุ้มครองให้ตรงกับความต้องการภายใต้โครงสร้างประชากร และสังคมที่เปลี่ยนไป
“โดยเฉพาะปัจจุบันที่การลงทุนมีความผันผวนสูง ลูกค้าเลือกประกันชีวิตเพื่อออมเงินมากขึ้น เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาแบบประกันสะสมทรัพย์ ประกันบำนาญเติบโตดี ซึ่งรวมถึงประกันโรคร้ายแรง และประกันสุขภาพที่ยังคงเติบโตตลาดต่อเนื่อง”
ราคาจับต้องได้
นายโชน กล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตส่วนหนึ่งเพราะผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม มีทางเลือกให้ผู้ซื้อเข้าถึงความคุ้มครองในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น กล่าวคือเบี้ยหลักร้อยบาทต่อเดือนก็เข้าถึงความคุ้มครองได้ เพราะปัจจุบันประกันสุขภาพมีการดีไซน์ให้ลูกค้าสามารถเลือกจ่ายความรับผิดส่วนแรกได้ซึ่งจะทำให้เบี้ยประกันถูกลง
หรือหากลูกค้าที่ต้องการวงเงินคุ้มครองสูงหลายสิบล้านบาท จนถึง ร้อยล้านบาท ซึ่งทาง BLA ก็มีแผนคุ้มครองให้เช่นกันโดยแบบประกันสุขภาพในครึ่งปีหลังยังคงเน้น ประกันสุขภาพ เพรสทีจ เฮลธ์ (Prestige Health) คุ้มครองค่ารักษา สูงสุดถึงอายุ 99 ปี ด้วยผลประโยชน์สูงสุด 100 ล้านบาท ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาลสูงสุด 25,000 บาทต่อวัน
ประกันสุขภาพ แฮปปี้ เฮลธ์ (Happy Health) คุ้มครองค่ารักษา สูงสุดถึงอายุ 99 ปี ด้วยผลประโยชน์สูงสุด 10 ล้านบาท ค่าห้องพยาบาล แบบห้องพักเดี่ยวราคามาตรฐาน สามารถเลือกแบบมี หรือไม่มีความรับผิดส่วนแรกก็ได้
และประกันสุขภาพ แวลู เฮลธ์ (Value Health) คุ้มครองค่ารักษา สูงสุดถึงอายุ 99 ปี ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาลสูงสุด 5,000 บาทต่อวัน (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก) ค่าแพทย์ผ่าตัด และค่าหัตถการ สูงสุด 400,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก) มีเงินชดเชยรายวัน (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก) คุ้มครองล้างไต รังสีรักษา เคมีบำบัด
ซึ่งประกันสุขภาพทั้ง 3แบบได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า เนื่องจากในแต่ละแบบประกันก็จะมีแผนให้เลือกตามความต้องการที่เหมาะสมกับลูกค้า
ประกันเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น
นายโชน กล่าวต่อว่า ในขณะที่ตลาดทุนมีความผันผวน การออมเงินผ่านประกันชีวิตได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น ด้วยความเสี่ยงและความผันผวนที่ต่ำ ดังนั้นในครึ่งปีหลัง ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ เกนฟิสต์ (มีเงินปันผล) จึงเข้ามาเป็นตัวเสริมในเรื่องวางแผนนออม ด้วยจุดเด่นที่คุ้มครองชีวิต ให้ผลตอบแทนสูง การันตีเงินคืนตลอดอายุสัญญา และมีโอกาสรับเงินปันผลเมื่อครบกำหนดสัญญา
สำหรับ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ เกนฟิสต์ (มีเงินปันผล) นั้น เงินปันผลดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับผลตอบแทนจากการลงทุนของสินทรัพย์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์แบบมีส่วนร่วมในเงินปันผลตลอดระยะเวลาสัญญา หลังหักด้วยต้นทุนทั้งหมดของกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งบริษัทจะจัดสรรในอัตราร้อยละ 80 ให้แก่ผู้เอาประกันภัย และเป็นไปตามเงื่อนไข ที่กำหนด
*FYPครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งแรก
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด คาด เบี้ยปีแรก (FYP) ของ BLA แข็งแกร่งขึ้นในครึ่งปีหลัง (2H66) ด้วยการเติบโตของเบี้ย FYP ที่ดีในครึ่งแรกของปี 2566 คาดว่า FYP จะแข็งแกร่งขึ้นในครึ่งหลังของปี 2566 จากที่ผู้บริหารกล่าวว่า FYP โดยเฉพาะจากช่องทางตัวแทนที่อ่อนแอในไตรมาส 2/2566 เริ่มฟื้นตัว QTD และน่าจะดีขึ้น ในไตรมาส 4/2566 และการเปิดตัวของผลิตภัณฑ์ใหม่ “Gain 1st Speed Up” ผ่านช่องทางการประกันผ่านธนาคาร (bancassurance) ในเดือนก.ค.
รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันยูนิตลิงค์ใหม่ คาดว่า FYP จะเติบโต 10% ในปี 2566 เป็น 7.6 พันล้านบาท ประมาณการกำไรปี 2566-2568 ที่ 3.96 พันล้านบาท โต3% ที่ 5.27 พันล้านบาท โต 29.7% และ 6.52 พันล้านบาทเติบโต 20.5% ตามลำดับ
IFRS17 ดีต่อผู้ถือหุ้น
มาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS17) ที่บังคับใช้ในปี 2568 อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นบริษัทประกันของไทยรวมถึง BLA จะนำมาตรฐาน IFRS17 มาใช้ในการรายงานงบการเงินในปี 2568 โดย สรุป BLA จะรับรู้รายได้จากเกณฑ์คงค้างตามกำไร/ขาดทุนที่คาดของแต่ละกรมธรรม์ ในขณะที่วิธีทางบัญชีปัจจุบันรับรู้รายได้ตามเกณฑ์เงินสดจากเบี้ยประกันภัยรับ
ส่วน IFRS17 จะแสดง 1) กำไรจากสัญญาประกันภัย และ 2) กำไรจากการลงทุนแยกกัน (รายได้จากการลงทุนหักต้นทุนทางการเงิน) จะมีอัตราส่วนใหม่ที่สำคัญที่เรียกว่า กำไรขั้นต้น จากการให้บริการตามสัญญา (Contractual Service Margin: CSM) ซึ่งแสดงถึงกำไรขั้นต้น จากกรมธรรม์ประกันภัย
ฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่า IFRS17 จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น เนื่องจาก 1) คาดว่ากำไรจะมีความผันผวนน้อยลง 2) กำไรหรือขาดทุนจากการขายประกันใหม่น่าจะสะท้อนทันทีใน P&L ทำให้สามารถอ่านงบการเงินได้ง่ายขึ้น และ 3) จากการสังเกตการณ์ของฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทประกันระหว่างประเทศที่นำมาตรฐาน IFRS17 มาใช้แล้ว แสดงให้เห็นว่ากำไรสุทธิจากส่วนของผู้ถือหุ้นอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตราส่วน Leverage Ratio นั้นดีขึ้น
AIA ในฮ่องกงกล่าวเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2566 ว่าการนำ IFRS17 มาใช้ทำให้กำไรสุทธิในปี FY2565 เพิ่มขึ้น 3.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และส่วนของผู้ถือหุ้นที่จัดสรรเพิ่มขึ้น 5%KPMG รายงานในเดือนมิ.ย. 2566 ว่าบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพส่วนใหญ่มี ROE ที่ดีขึ้นในช่วง 5% ถึง 20% Prudential กล่าวเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2566 ว่าส่วนของผู้ถือหุ้น ในปี 2565 หลังจากปรับปรุงด้วย IFRS17 ดีขึ้น 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานในปี 2565 จะลดลง 653 ล้าน นดอลลาร์สหรัฐฯ
ฝ่ายวิเคราะห์ คงคำแนะนา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายช่วงกลางปี 2567 เป็น 40 บาท ราคาเป้าหมายอิงกับ P/EV ที่ 1.0 เท่า ปัจจัยเร่งน่าจะปรับตัวดีขึ้นในผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2566 และมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม