18 กันยายน 2023 เวลา 06:00 น.
1.ทั้ง SAWAD และ MTC เริ่มทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้แล้ว ตั้งแต่เดือน ก.ค. เพื่อส่งผ่านผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่เร่งตัวขึ้นจากการออกหุ้นกู้รอบใหม่ที่มีดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้ NIM มีเสถียรภาพมากขึ้นจากเดิม
2. ภาพรวมของเศรษฐกิจใน 3Q/66 ยังเป็นการฟื้นตัวแบบไม่ทั่วถึง (Uneven Recovery) ทำให้ความต้องการสินเชื่อเงินด่วน ทั้งเพื่อเสริมสภาพคล่องของธุรกิจรายเล็กและการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันยังมีอยู่มาก หนุนให้คาดพอร์ตสินเชื่อของทั้ง SAWAD และ MTC จะยังเร่งขึ้นต่อทั้ง QoQ และ YoY
3. สินเชื่อจำนำทะเบียนไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการแก้ปัญหาลูกหนี้เรื้อรังของ ธปท. ที่จะเริ่มปรับใช้ต้นปี 2567 และ
4.ได้ประโยชน์จากมาตรการภาครัฐ ที่กลับมาเร่งดำเนินการ ทั้งในส่วนของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ อย่าง ค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำมัน และก๊าซหุงต้ม รวมถึงมาตรการพักชำระหนี้เกษตรกร ซึ่งล้วนแต่ช่วยให้ลูกหนี้ที่มีรายได้น้อยมีความสามารถในการชำระเงินคืนสูงขึ้น (SAWAD และ MTC มีลูกหนี้เป็นเกษตรกรราว 40% และ 10% ตามลำดับ) หนุนให้คุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มแข็งแรงขึ้น ลดแรงกดดันจากการตั้งสำรอง
สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานใน 3Q/66 เบื้องต้นเราคาด SAWAD จะมีกำไรสุทธิ 1,300-1,400 ล้านบาท โตทั้ง YoY และ QoQ หนุนด้วยรายได้ดอกเบี้ยรับที่ปรับขึ้นได้ดี สอดรับกับการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อทั้งจำนำทะเบียนและสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มือหนึ่ง ประกอบกับเป็นไตรมาสแรกที่จะรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากบริษัทเงินสดทันใจเข้ามาหลังเริ่มรวมงบการเงินตั้งแต่ช่วงปลาย 2Q/66 นอกจากนี้คาดจะมีประเด็นบวกจากฝั่งค่าใช้จ่ายที่ Cost to Income Ratio จะเริ่มลดลง จากการลดอัตราการจ่ายผลตอบแทนให้กับดีลเลอร์และพนักงานขาย รวมถึงการตั้งสำรองที่ปรับลง หลังไม่มีรายการพิเศษเหมือนใน 2Q/66 (ราว 220 ล้านบาท) ขณะที่ 4Q/66 คาดกำไรเร่งตัวขึ้นต่อ ตามขนาดของพอร์ตสินเชื่อที่ใหญ่ขึ้นและผลของการปรับลดค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนมากขึ้น หนุนให้คาดทั้งปี 2566 จะมีกำไรสุทธิ 5,524 ล้านบาท โต 23.4%YoY และโตต่อ 21.5%YoY ในปี 2567
ส่วน MTC เราคาดกำไรสุทธิใน 3Q/66 จะทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ ที่ราว 1,200 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายในการจูงใจพนักงานให้ดูแลคุณภาพลูกหนี้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการตั้งสำรองที่ยังทรงตัวสูง หักล้างปัจจัยบวกจากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมที่โตดี ทั้งนี้เราคาดผลดำเนินงานของ MTC จะกลับมาโต YoY และ QoQ ใน 4Q/66 หลังลูกหนี้ในพอร์ตเริ่มมีความสามารถในการชำระคืนเงินดีขึ้น ทำให้เราคาด MTC จะมีกำไรสุทธิในปี 2566 ที่ 4,747 ล้านบาท ลดลง 6.8%YoY และพลิกโต 17.8%YoY ในปี 2567 หลังการตั้งสำรองเริ่มลดต่ำลงแล้ว
เราคงคำแนะนำลงทุนกลุ่ม Finance “เท่ากับตลาด” เนื่องจากมองบางธุรกิจในกลุ่มยังมีความเสี่ยง แต่บริษัทสินเชื่อมีหลักประกันอย่าง SAWAD และ MTC เริ่มมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุน หนุนจากผลดำเนินงานที่จะดีขึ้นตั้งแต่ 4Q/66 เป็นต้นไป อีกทั้งเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ฐานราก หลังภาครัฐ เตรียมออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง/ยาว ขณะที่แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย คาดอยู่ในช่วงปลายขาขึ้นแล้ว หลังปรับขึ้นต่อเนื่องจนสูงกว่าก่อน COVID-19 นอกจากนี้เราปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2567 ทำให้ SAWAD มีมูลค่าพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 68.50 บาท จากเดิมที่ 64 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” ส่วน MTC มีมูลค่าพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 48 บาท จากเดิมที่ 36 บาท เพิ่มคำแนะนำขึ้นจากเดิม “TRADING” เป็น “ซื้อ” ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม