เคาะไป คุยไป : เคาะ LEO

#LEO #ทันหุ้น - เราประเมินกำไรสุทธิปี 66-67 เท่ากับ 95.6 ล้านบาท และ 136.6 ล้านบาท ตามลำดับ โดยงบ 2Q/66 แม้หดตัวอยู่เมื่อเทียบรายปีจากผลกระทบที่ปริมาณขนส่งและราคาค่าขนส่งหดตัวลง แต่แนวโน้ม 2Q/66 เริ่มมีสัญญาณการหดตัวที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบรายไตรมาส โดยเฉพาะหากเทียบกับการหดตัวในช่วง 3 ไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งธุรกิจของ LEO โดยปกติจะคิดค่าบริการส่วนเพิ่มได้ตามอัตราค่าขนส่งอ้างอิง ดังนั้น บริษัทคงสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีขึ้นในช่วงที่แม้ราคาค่าขนส่งจะปรับลดลง โดยใน 1H/66 LEOมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 33% (เทียบกับ 1H/65 ที่ 16% และ 2H/66 ที่ 23%)

เรามองว่า 2H/66 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของปริมาณขนส่งหลังจากที่สถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ซึ่งหากเทียบกับช่วง 3 ไตรมาสก่อนหน้านี้ที่สถานการณ์โควิด-19 เพิ่งสิ้นสุดและอุปสงค์การขนส่งในตลาดถูกดึงชะลอออกไปจากความไม่แน่นอนทางนโยบาย ดังนั้นเราจึงคาดว่าอัตราค่าขนส่งจะฟื้นตัวตามและไม่น่ามีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าในช่วงครึ่งปีแรก

นอกจากนี้ LEO จะมีปัจจัยหนุนจากโครงการใหม่ที่เตรียม COD อีกกว่า 5 โครงการสำคัญที่รอรับรู้รายได้ ได้แก่ 1. โครงการขนส่งข้ามพรมแดมโดยรถบรรทุกไปลาว/จีน/กัมพูชา 2. โครงการเปิดเช่าคอนเทนเนอร์เย็น 3. โครงการขนส่งสินค้าเคมี 4. โครงการเปิดบริการ Self-Storage 2 สาขา และ 5.โครงการพัฒนาธุรกิจตัวแทนในการซื้อขายสินค้าจากไทย-จีน ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างรายได้ส่วนเพิ่มได้

LEO ราคาปรับตัวลงมากว่า-48%YTD สะท้อนภาพปัจจัยลบไปพอสมควร หลังรายได้ธุรกิจได้รับผลกระทบจากปริมาณขนส่งและราคาขนส่งที่ปรับตัวลงอย่างมากในช่วงที่โควิดคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ปริมาณขนส่งเริ่มฟื้นใน 2Q/66 สะท้อนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ราคาขนส่งคาดว่าจะค่อยๆ ทยอยฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้เรามองว่าบริษัทสามารถรักษามาร์จิ้นได้ดีขึ้นแม้ในช่วงที่ราคาขนส่งลดลง ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถคงทำกำไรจากธุรกิจขนส่ง นอกจากนี้ ธุรกิจ Non-Freight จะเป็นตัวหนุนในปี 67 เราจึงมองว่า รายได้และกำไรมีโอกาสทยอยฟื้นตัวช่วง 2H/66 ถึง ปี 2567

เราคงแนะนำหาจังหวะทยอยเข้า “ซื้อ” โดยให้ราคา 12 เดือนล่วงหน้าที่ 7.5 บาท อิง Forward P/E ที่ 18 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังสามปีที่ 22.3 เท่า และปัจจุบันเทรดอยู่ที่เพียง 14.5 เท่า โดยเรามองว่าแม้ธุรกิจจะเหมือนว่าผ่านจุดดีที่สุดไปแล้วในช่วงพีคของราคาขนส่ง แต่บริษัทยังคงมีการขยายโครงการไปยังธุรกิจ Non-Freight อย่างต่อเนื่อง จึงมองว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจโดยเฉพาะผลประกอบที่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวใน2H/66

แนะนำ “เคาะ” ครับ ปรับตัวลงทดสอบเข้าใกล้กรอบแนวรับจุดต่ำรอบก่อนหน้า กลับขึ้นทางเทคนิคในลักษณะการเรียงตัวแท่งเทียนไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่า ระยะสั้นแท่งเทียนสีขาวยาวผ่านยืน SMA ขึ้นมายืนเหนือมั่นคงเป็นสัญญาซื้อเล่นรอบตามกัน แนวต้านจุดทดสอบ 6.70 ยืนเหนือเป็นสัญญาณบวกยืนยัน แนวต้านหลักบริเวณ 7.25-7.30 แนวรับสำคัญเน้นยืน SMA 5 วัน ที่ตัด 13 วันขึ้นมาที่ 6.35