ดำเนินธุรกิจพัฒนาและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่และประกอบธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องและส่งเสริมธุรกิจ พัฒนาศูนย์การค้า เช่น อาคารสำนักงาน ศูนย์อาหาร โรงแรม และที่พักอาศัยเป็นต้น รวมถึงการลงทุนในกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 66 มีกำไรสุทธิ 4,161 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.93 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,872 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.64 บาท
ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 66 มีกำไรสุทธิ 11,085 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.48 บาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7,953 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.77 บาท
CPN รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 4,161.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.89% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,872.10 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 66 มีกำไรสุทธิ 11,085.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.37% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7,953.80 ล้านบาท
โดยบริษัท มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในโตรมาสที่ 3/66 จากการโอนโครงการคอนโดมิเนียม ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเป็นอย่างมาก บริษัท มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 12,277 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 4,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% และ 45% จากปีก่อนหน้า ตามลำดับ รายได้รวมและกำไรได้ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 3/62 หรือก่อนโควิดแล้วที่ 30% และ 48% ตามลำดับ
รายได้รวมและกำไรเพิ่มขึ้น 10% และ 13% จากไตรมาสก่อนหน้าตามลำดับ จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พักอาศัย และมีตัวเลขกำไรขั้นต้นของธุรกิจให้เช่าและบริการที่สูงขึ้น หากไม่รวมผลกระทบทางมาตรฐานบัญชี ในไตรมาสนี้บริษัท จะมีกำไรสุทธิสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ถึง 3,829 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% จากปีก่อนหน้า
โดยในโตรมาสที่ 3 จำนวนผู้เข้าใช้บริการในศูนย์การค้ายังคงพื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยยังอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาส 2 สำหรับการขยายพื้นที่และโครงการเปิดใหม่ระหว่างโตรมาส ได้แก่ การเปิดศูนย์ประชุมแห่งใหม่ที่โครงการเซ็นทรัล อุบล เพื่อรองรับการเป็นเมืองไมซ์ (Mice City) ของจังหวัด
ธุรกิจโรงแรมมีการเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ โก! โฮเทล ศรีราชา บริเวณเดียวกับเซ็นทรัล ศรีราชา เมื่อวันที่ 1ส.ค.66 และโก! โฮเทล ชลบุรี บริเวณเดียวกับเซ็นทรัล ชลบุรี เมื่อวันที่ 10 ส.ค.66 โดยทั้ง 2 แห่ง มีห้องพักแห่งละ 79 ห้อง ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พักอาศัย บริษัทเปิดโครงการบ้านนิรติ นครศรีฯ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.66 มูลค่าโครงการ 677 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้โอนคอนโดมีเนียมเพิ่มในโครงการ วิลล์ อยุธยา เอสเซ็น หาดใหญ่ และฟิล ภูเก็ต
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงผลักดันแผนการขยายธุรกิจอยอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายทางธุรกิจในระยะ 5 ปี ที่จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 14-16% ในระหว่างปี 66 – 70
นางสาววริศรา เด่นวรลักษณ์ Head of Investor Relation บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยในงาน Opportunity Day ในวันนี้ว่า ในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 20-30%โดยจะมาจากการเติบโตในทุกธุรกิจ ทั้ง ศูนย์การค้า โรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวลดลง
ด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ต และ E Refund ประเมินว่า จะเห็นผลบวกให้บรรยากาศการจับจ่ายดีขึ้น แต่ทั้งนี้หากมองในมุมของความสามารถในการทำรายได้เพิ่มขึ้นอาจไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจึงมอง 2 มาตรการนี้ช่วยในเชิงเซนติเมนต์เท่านั้น โดยเฉพาะมาตรการ E Refund ที่มีแผนดำเนินการโครงการชัดเจนแล้ว ต้องติดตามดูว่าจะมีผลต่อรายได้ผู้เช่าของ CPN แค่ไหน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ได้ส่งผลบวกอย่างมีนัยมากนัก เนื่องจากเป็นมาตรการที่คล้ายกับมาตรการช้อปช่วยชาติ ที่จะรับรู้มาอย่างต่อเนื่องทุกปี
ส่วนความคืบหน้าของโครงการใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ จะเปิด Central Westville และในปีหน้าคาดว่าจะเปิดเซ็นทรัลนครปฐม และเซ็นทรัล นครสวรรค์ ได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 67 ขณะที่เซ็นทรัลกระบี่ คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงต้นปี 68 ด้าน Dusit CENTRAL PARK ส่วนพื้นที่โรงแรมคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 67
นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/66 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยอีก 5 โครงการ แบ่งเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และโครงการประเภทบ้านเดี่ยว 3 โครงการ
สำหรับปัจจุบันมีธุรกิจ Retail 56 โครงการ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 38 แห่ง โครงการ Community Mall 17 โครงการ และโครงการ Super-regional 1 โครงการ
แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/66 คาดว่าจะเป็นบวก จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตค่อนข้างดี และธุรกิจศูนย์การค้า ในไตรมาส 4/65 ที่มีส่วนลดค่าเช่าที่อาจจะไม่ได้คืนกลับมา จะเป็นตัวช่วยตัวที่ 2 และธุรกิจโรงหนังมีแนวโน้มอาจจะทำได้ค่อนข้างดีที่หนังไทยติดเทรนด์ และคิดว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีในไตรมาส 4/66
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลง และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 67.00-68.00 หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับที่ 60.00 กลับขึ้นไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสถูกขายทำกำไรที่แนวต้าน 68.00 ลงไปทดสอบแนวรับที่ 64.00 และ 62.00 แต่ถ้าทะลุผ่านแนวต้านที่ 68.00 ขึ้นไป แนวต้านถัดไป 70.00 และ 72.00
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม