#TLI #ทันหุ้น TLI ปักธงเป้าหมาย 3-5ปี VONB ขยายตัว 2 หลัก เพื่อสร้างการเติบโตยั่งยืน ขณะที่ 9 เดือนแรก กำไร 7,729 ล้านบาท ย้ำเน้นขายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราผลกำไรที่สูง
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI แจ้งผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 มีมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (Value of New Business : VONB) อยู่ที่ 5,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 4.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอัตรากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB Margin) เพิ่มขึ้น 9 จุด โดยมีอัตราถึง 62.4% และมีกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 สูงถึง 7,729 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่เติบโตทุกช่องทางการขาย
บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (Annual Premium Equivalent: APE) จำนวน 8,599 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวมสูงถึง 63,589 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตของกำไรจากการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้น 5.8% อยู่ที่ 5,718 ล้านบาท และยังมีกำไรจากการลงทุนสูงถึง 2,011 ล้านบาท ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน
*เป้าหมายโต 2หลัก
นายไมเคิล เฮียง ลี รองผู้จัดการใหญ่ และ Chief Financial Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI กล่าวว่า ในส่วนของมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB) บริษัทมีเป้าหมายใน 3-5 ปีข้างหน้าที่จะเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก ดังนั้นในปี 2567 บริษัทก็จะเติบโตในระดับดังกล่าว
ซึ่งภายใต้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 17ธุรกิจประกันชีวิตจะต้องบริหารพอร์ตงานรับประกันให้สมดุล ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยอาจกระทบต่องบกำไรของธุรกิจ ดังนั้นการจะดูเฉพาะแค่เบี้ยรับปีแรกอาจไม่สะท้อนการเติบโตที่ยั่งยืน ขณะที่ มูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB) จะเป็นตัวสะท้อนการเติบโต และความสามารถในการทำกำไรจากพอร์ตงานรับประกัน
โดยผลิตภัณฑ์ที่ขายออกไปปัจจุบันมีความต้องการในตลาด และบริษัทยังเน้นกรมธรรม์ที่เพิ่มมูลค่าให้แก่บริษัท สำหรับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างกำไรในระยะยาว และมีความอ่อนไหวน้อยต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนร่วมในเงินปันผล หรือ Participating Product, ผลิตภัณฑ์ควบการลงทุน และสัญญาเพิ่มเติม ซึ่งกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์นี้จะผลักดันให้บริษัทฯ มีกำไรอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ
ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปีหรือ APE เป็นการคำนวณที่ใช้กันโดยทั่วไปในอุตสาหกรรมประกันชีวิตเพื่อประเมินการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทประกัน โดยคำนวณจากมูลค่าเต็มปีของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบจ่ายรายงวดทั้งหมด (Annualized First Year Premium) บวกด้วยจำนวน 10% ของเบี้ยประกันภัยรับจ่ายครั้งเดียว (Single Premium) ของทุกกรมธรรม์ที่ขายได้ในรอบระยะเวลารายงานดังกล่าว
บริษัท เชื่อว่าเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปีเป็นตัวชี้วัดความยั่งยืนของธุรกิจใหม่ที่แม่นยำกว่าเบี้ยประกันภัยรับปีแรก และเบี้ยประกันภัยรับจ่ายครั้งเดียว เนื่องจากมูลค่าดังกล่าวได้ผ่านการปรับมูลค่าของเบี้ยประกันภัยรับจ่ายครั้งเดียวให้เทียบเท่ากับการจ่ายเบี้ยประกันภัยรับทั่วไป
ขณะที่มูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ หรือ VONB แสดงถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากกรมธรรม์ใหม่ในแต่ละช่วงระยะเวลารายงาน โดยVONB เกิดจากการคำนวณมูลค่าปัจจุบัน (ณ เวลาที่เกิดธุรกรรม) ของกำไรหลังหักภาษีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และหักด้วยต้นทุนของเงินทุนที่เกี่ยวข้อง
บริษัทเชื่อว่า VONB เหมาะสมกว่าที่จะแสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่เกิดขึ้นจากกรมธรรม์ใหม่ และแสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น อัตรากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB Margin) คำนวณจากการนำมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB) หารด้วยค่าเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี(APE)
*VONB งบ9เดือนโต
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี2566 APE ลดลง 10.81% เป็น 8,599 ล้านบาท ในขณะที่ VONB เพิ่มขึ้น 4.19% เป็น 5,366 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้ว่า APE จะลดลง แต่ VONB ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จในการปรับสัดส่วนของ
ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราผลกำไรที่สูง โดยเฉพาะในช่องทางตัวแทนประกันและช่องทางพันธมิตร และจากการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นของอัตราดอกเบี้ย บริษัทยังคงส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีและได้รับผลกระทบน้อยจากการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย
เช่น ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสามัญแบบมีส่วนร่วมในเงินปันผลรูปแบบใหม่ (Ordinary Life – New Participating Product) ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทควบการลงทุน (Investment-Linked Product) และสัญญาเพิ่มเติม บริษัท เชื่อว่ากลยุทธ์นี้จะช่วยให้ VONB สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม