#ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่วานปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1390 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือจุดต่ำสุดเดิมที่ 1370 ถ้าสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1400 ขึ้นไป จะเป็นสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคไปทดสอบแนวต้านที่ 1425-1430
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ GUNKUL หรือ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจ 1. กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม และให้บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า 2. กลุ่มธุรกิจวิศวกรรม และTurnkey แบบครบวงจรการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน สถานีไฟฟ้า ระบบสายส่ง ระบบไฟฟ้าลงดิน เคเบิ้ลใต้น้ำ ระบบไมโครกริด และระบบกักเก็บพลังงาน 3. กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงผลิต จัดหา และจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน และพลังงานทางเลือก4. กลุ่มธุรกิจ Ecosystem Business Platform & Innovationระบบนิเวศทางธุรกิจและนวัตกรรมที่ส่งเสริมการทำธุรกิจของบริษัทร่วมกับพันธมิตร 5. กลุ่มธุรกิจกัญชงและกัญชาแบบครบวงจร
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 66 มีกำไรสุทธิ 461 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.05 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,539 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.17 บาท
ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 66 มีกำไรสุทธิ 1,369 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.15 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,821 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.32 บาท
GUNKUL รายงานกำไรสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 426.26 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 221.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 204.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 92.32%
สำหรับงวด 9 เดือน กำไรจากการดำเนินงานปกติ 1,321.31 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรเพียง 917.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 403.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 43.99%
โดยมีสาเหตุมาจากการดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้นทั้งในส่วนของธุรกิจการขาย ธุรกิจก่อสร้าง รวมถึงปริมาณการผลิตไฟฟ้า โครงการพลังงานลมที่เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3เดือน และ 9 เดือน ถึงแม้บริษัทฯ จะถือสัดส่วนเพียง 50%แต่ยังสามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทได้อย่างมากส่งผลให้กำไรดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ
ทั้งนี้ จากความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และผลประกอบการที่ยังอยู่ในทิศทางที่ดี ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 535 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2566 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 ธันวาคม 2566 นี้
สำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์ม ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ซึ่งอยู่ในแผนการดำเนินการของบริษัทฯ คาดว่าโครงการแรกจะมีการจ่ายไฟฟ้าได้ในปี 2569
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ปี 67-68 มีโอกาสที่บริษัทมีรายได้เติบโตปีละ 15% เนื่องจากมีงานในมือ(Backlog) ในส่วนงานก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) 6,000 ล้านบาท เช่น งานก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มขนาดใหญ่ ของบมจ. ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์(TPIPP) , งานซ่อมสายเคเบิลใต้น้ำของเกาะสีชัง ,นำสายไฟลงดินที่เจริญราษฎร์,เสา AIS เป็นต้น
รวมถึงบริษัทฯ จะเข้ารับงานใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งคาดหวังให้ Blacklog อยู่ในระดับ 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตในปี 67 ต่อเนื่องถึงปี 68
ส่วนโรงไฟฟ้า ที่มีสัญญาระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ผลิตไฟฟ้า (PPA) จะสามารถรับรู้เป็นรายได้ใหม่ๆ ในปี 69 เป็นต้นไป ซึ่งงบลงทุนในช่วงปี 67-68 คาดว่าจะใช้ประมาณ 2,000-7,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนโรงไฟฟ้า จำนวน 177 เมกะวัตต์(MW) อย่างไรก็ตามหากนับรวมเงินลงทุนช่วงปี 67-71 วางงบไว้กว่า 30,000 ล้านบาท โดยใช้เงินในส่วนทุนของบริษัทฯ ประมาณ 8,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรณีที่ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เห็นชอบปรับแผนรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด เพิ่มอีก 3,668.5MW ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากปัจจุบันเปิดรับซื้ออยู่ 5,203 เมกะวัตต์ ซึ่ง GUNKUL ผ่านการคัดเลือกจำนวน 17 โครงการ กำลังการผลิตรวม 832.4 MW จะเป็นตัวผลักดันการเติบโตของ GUNKUL ในช่วง 3-7 ปีข้างหน้า ตามประมาณการผลิตเชิงพาณิชย์(COD) ในอนาคต
ซึ่งจำนวน 832.4 MW ดังกล่าว ได้สิทธิ์ขายไฟฟ้าในราคา 2.17-3.33 บาท/หน่วย คาดว่าปี 69 สามารถ COD ได้ 177 MW , ปี 71 COD ได้ 48MW , ปี 72 COD จำนวน 371 MW และปี 73 COD จำนวน 236 MW โดยบริษัทฯ พร้อมเซ็นสัญญา ซึ่งอยากดำเนินการให้เร็วที่สุด และหากเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นในปีนี้
สำหรับผลงานช่วงไตรมาส 4/66 คาดว่าผลงานธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะเติบโตเด่นเป็นส่วนแบ่งกำไรที่เสริมบริษัทฯ เข้ามา เนื่องจากปัจจุบันแรงลมในปัจจุบันสูงกว่าทั้งปี 65 แล้ว ซึ่งหากผลงานช่วงไตรมาส 4/66 ยังดีต่อเนื่อง จะช่วยสนับสนุนให้ทั้งปี 66 มีโอกาสทำสถิติแรงลมดีสุดในรอบ 7 ปี ด้านธุรกิจเทรดดิ้ง ไฟแนนซ์ เติบโตช่วยหนุนประกอบกัน คาดว่ารายได้ปีนี้เติบโต 15% ได้ตามเป้าหมาย
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานที่บริเวณ 2.50-2.60 หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องตามกรอบแนวโน้มขาลงเข้าใกล้แนวรับที่ 2.20 ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.00 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.40 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 2.50 ลงไป จะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 2.00
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม