30 มกราคม 2024 เวลา 11:16 น.
#MTL #ทันหุ้น MTL เผยเทคโนโลยีช่วยเพิ่มผลผลิต และการขยายฐานลูกค้า พร้อมเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่อง ทั้งด้านเทค และฝ่ายขาย พร้อมเป้าหมายปี 2567 เติบโตต่อเนื่องด้วยเบี้ยใหม่ขยายตัว 20%ขณะที่พอร์ตลงทุน 6 แสนล้านบาท ยังคงเน้นตราสารนี้คุณภาพพร้อมเป้าหมายพอร์ตลงทุนปีนี้โต 3.5-4%
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL กล่าวว่า ภายใต้โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมืองไทยประกันชีวิต ได้ปรับเปลี่ยนมุมมองในการดำเนินธุรกิจจากรูปแบบเดิม Inside Out เป็น Outside Inคือการมองจากภายนอกเข้ามา เพื่อให้บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบองค์กร การดำเนินงานต่างๆ ให้เหมาะสมได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแบบรายบุคคลมากยิ่งขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ จะพัฒนาจากมุมมองความต้องการของลูกค้า
รวมถึงสร้างการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่หลากหลายช่องทาง ผ่านเทคโนโลยีที่เข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม นายสาระ ชี้ว่า เทคโนโลยี หรือหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นมานั้น จะเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในธุรกิจประกันชีวิต ที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่น ความเชื่อใจจากมนุษย์ด้วยกัน นั่นจึงทำให้ MTL ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรทุกส่วนอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมา MTL เดินหน้าพัฒนาช่องทางออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ทั้งจากบริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง ทั้ง MTL Online Sales website, MTL Click และ MTL Fit เป็นต้น และการจับมือกับพันธมิตรเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ MTL เข้าไปอยู่บนแพลตฟอร์ม Marketplace ที่เป็นพันธมิตร เพื่อส่งมอบบริการ ผลิตภัณฑ์ และสร้างการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึง การพัฒนาแอป MTL Connectที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานให้กับฝ่ายขาย
นายสาระ กล่าวอีกว่า เมื่อเทคโนโลยีช่วยเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจ MTL จึงมีเป้าหมายที่จะใช้ช่องทางดิจิทัลในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ทุกแบบ ทุกประเภทให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการหลากหลาย นั้นหมายความว่าผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อน และมีความคุ้มครองสูงๆ อย่าง อีลิท เฮลธ์ (Elite Health) และยูนิต ลิงค์ จะสามารถเสนอขายผ่านช่องทางดิจิทัลได้
“โดยมากแล้ว แบบประกันที่ขายผ่านออนไลน์จะมีความคุ้มครองไม่สูงมาก เบี้ยไม่แพงและเข้าใจง่าย แต่เราไม่ต้องการจำกัดการนำเสนอแค่นั้น และเราเห็นว่า แบบประกันที่วงเงินคุ้มครองสูง ความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ ต้องอาศัยความเชื่อมั่น และมั่นใจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนั้นหากลูกค้าที่ต้องการแบบประกันดังกล่าวก็สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้ เพราะเรามีการพัฒนาระบบการขายออนไลน์แบบ Face-to-Faceเพื่อบริการแก่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้”
นายสาระ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนงานปีนี้ MTL จะขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ “Happiness, Your Way เพราะความสุขคือทุกอย่าง… ความสุขสไตล์คุณคือที่สุดของทุกสิ่ง” ที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้ โดยตั้งเป้าเบี้ยใหม่เติบโต 20% จากปี 2566 ขณะที่ปี 2566 เบี้ยรับของบริษัทอยู่ที่ ประมาณ 70,000 ล้านบาท ขยายตัว 2% ซึ่งสอดคล้องไปกับภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยที่ขยายตัวในระดับนี้เช่นกัน
พอร์ตลงทุน 6 แสนล้านบ.
นายธนัญชัย สัจจะปรเมษฐ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าพอร์ตลงทุนปีนี้โต 3.5-4% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตลงทุนประมาณ 6 แสนล้านบาท โดยการลงทุนปีนี้จะต้องระมัดระวังการลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยไม่แน่นอนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้นโยบายการการลงทุนของเมืองไทยประกันชีวิตปีนี้ยังคงเน้นลงทุนตราสารหนี้สัดส่วน 80% ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยมีเรตติ้งระดับอินเวสต์เมนต์เกรดตั้งแต่ A ขึ้นไป เพราะเน้นลงทุนระยะยาว ส่วนแนวโน้มยิลด์จะปรับตัวลงบ้างแต่เชื่อว่าจะลงไม่มาก ส่วนอีก 20% ลงทุนในหุ้นทั้งหุ้นต่างประเทศและในประเทศ ก็จะมีการระมัดระวังเช่นกัน เนื่องจาก มีปัจจัยความไม่แน่นอน เช่น ปีนี้มีหลายประเทศจะมีการเลือกตั้ง ,ทิศทางดอกเบี้ยในหลายประเทศจะปรับตัวลงในครึ่งปีหลัง และ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั้งในต่างประเทศและประเทศไทย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น แม้ปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยจะลงมามากแล้ว ราคาหุ้นมีความน่าสนใจ แต่ด้วยขณะนี้ปัจจัยต่างๆ มีความไม่แน่นอนนั้นแต่หากปัจจัยต่างๆ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น นโยบายมีความคืบหน้า นักลงทุนมีความเชื่อมั่น ก็พร้อมลงทุน แต่ขณะนี้ก็ต้องระมัดระวังการลงทุน โดยจะลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากปัจจัยที่เข้ามา
"พอร์ตการลงทุนของเมืองไทยประกันชีวิตปีนี้ สัดส่วนการลงทุนไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะ ยังคงเน้นลงทุนตราสารหนี้สัดส่วน 80% และที่เหลือลงทุนในหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ 20% ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตการลงทุนที่ประมาณ 6 แสนล้านบาท จากที่บริษัทมีสินทรัพย์ที่ 6.3 แสนล้านบาท"
นายธนัญชัย กล่าวว่า ในปีนี้จะมีความชัดเจนการลงทุนใน เนอร์สซิ่งโฮม สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งจะเป็นลักษณะการเข้าไปร่วมลงทุน
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม