#MFC #ทันหุ้น - MFC มองตลาด PVD ยังคงขยายตัวต่อเนื่องในปี 2567 ซึ่งนายจ้างกลับมาพิจารณาสวัสดิการเพิ่มขึ้นหลังโควิด โดย AUM บริหารเม็ดเงินส่วนนี้ถึงแสนล้านบาท ประเดิมต้นปี คว้า 5 พันล้านบาท เข้าพอร์ตบริหาร ขณะที่กองทุนไพรเวทฟันด์ MFC วางแผนขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ปัจจุบันบริหารเม็ดเงินส่วนนี้ราว 38,000 ล้านบาท พร้อมพัฒนาโซลูชั่นมัดใจลูกค้า

นายเกษตร  ชัยวันเพ็ญ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด สายการขายและการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC กล่าวถึงภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ในปีที่ผ่านมาเริ่มมีนายจ้างกลับมาคำนึงถึงเรื่องสวัสดิการเพื่อเกษียณของลูกจ้างอีกครั้ง  หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ส่งผลให้จำนวนนายจ้างใหม่ที่จัดตั้งกองทุนPVD เพิ่มขึ้นในจำนวนเกือบใกล้เคียงช่วงก่อนโควิด ส่งผลให้คาดว่า ปี 2567 จำนวนนายจ้างใหม่ที่จะพิจารณาจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพน่าจะกลับมาปกติ หรืออาจจะเพิ่มขึ้นกว่าช่วงก่อนโควิดได้

“อย่างไรก็ตาม อีกปัจจัยหนึ่งที่จะเป็นตัวกระตุ้นจำนวนนายจ้างใหม่ และเม็ดเงินสะสมสมทบได้อีกอย่างมากนั่นคือ การที่ภาครัฐผลักดันให้การจัดตั้ง กองทุนบำเหน็จบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ออกมาเป็นรูปธรรมและมีผลบังคับใช้ได้ในปีนี้ ซึ่งหากกฎหมายมีผลบังคับใช้ได้จริงในปีนี้ จะทำให้มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นอีกอย่างมากในตลาดการเงินของประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีทั้งตลาดเงินและตลาดทุน สร้างเสถียรภาพของตลาดการเงินไทยเป็นอย่างมาก”

*ดูแลพอร์ต PVD แสนล.

สำหรับ MFC ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ประมาณ 4 แสนล้านบาท ในส่วนของธุรกิจกองทุน PVD ซึ่งถือเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของ MFC นั้น มี AUM สูงถึง 1 แสนล้านบาท โดย MFC บริหารให้อยู่มากกว่า 600 นายจ้าง และมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ในอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม นายเกษตร กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน เมื่อต้นปี 2567 MFC ยังได้รับการแต่งตั้งให้บริหารกองทุน PVD เพิ่มขึ้นอีกเกือบ 5,000 ล้านบาท

“เราพยายามหาจุดการให้บริการและโซลูชั่นใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ ความต้องการของสมาชิกกองทุนที่แตกต่าง พร้อมเพิ่มเติม และพัฒนาเพื่อเติมบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ทั้งการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน แอปพลิเคชัน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ส่งผลให้บางกองทุนเลือกใช้บริการงานทะเบียนสมาชิกของ MFC เพิ่มเติมและต่อเนื่อง”

อีกหนึ่งสิ่งที่ MFC พยายามส่งเสริมคือ การนำเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญประกอบการวางแผนเกษียณของพนักงานแต่ละราย ผ่านการให้ความรู้สมาชิกเรื่องของ Employee’s Choice คือ การที่แนะนำให้สมาชิกศึกษาเรื่องการเลือกทรัพย์สินการลงทุนให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของตนเอง และระยะเวลาลงทุนในกองทุน เพื่อเป็นการเพิ่มเม็ดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ตนเองจะได้รับตอนเกษียณอายุ นั่นเอง

ปัจจุบัน MFC มีประเภทสินทรัพย์ให้เลือกมากกว่า 20 แบบ อาทิ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ อสังหา ทองคำ เป็นต้น ดังนั้นหากบริษัทหรือผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อให้ทางบริษัทเข้าไปนำเสนอบริการและแนวทางใหม่ๆ ได้

*ขยายไพรเวทฟันด์

นายเกษตร กล่าวถึงธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ด้วยว่า ปัจจุบัน  MFC บริหารเงินลงทุนกว่า 38,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากลูกค้ารายบุคคล และลูกค้าสถาบัน โดยเฉพาะในส่วนของสถาบันนั้น บริษัทได้รับความไว้วางใจจากองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์การอิสระ บริษัท มหาวิทยาลัย และสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยเฉพาะในส่วนของสหกรณ์ออมทรัพย์นั้น MFC ได้รับความไว้วางใจบริหารสินทรัพย์ให้กับสหกรณ์มากกว่า 20 แห่ง ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดใหญ่ของบริษัทก็ว่าได้

“ในปีนี้เรามีแผนที่จะขยายการให้บริการไปในกลุ่มของบริษัทประกัน และบริษัทเอกชนมากยิ่งขึ้น รวมถึงกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ซึ่งเรามีฐานลูกค้าใหญ่อยู่แล้วเพิ่มขึ้นอีกด้วย”