#BGRIM#ทันหุ้น-BGRIM โชว์กำไรสุทธิจาการดำเนินงานQ1/67ที่ 488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.4%จากช่วงเดียวกันปีกอ่น ที่380 ล้านบาท เหตุปริมาณขายไฟเพิ่ม-ต้นทุนก๊าซฯลด เดินหน้าลงทุนโครงการไฟฟ้าใหม่-ซื้อกิจการ พร้อมเข้าประมูลโครงการรัฐ
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส1ปี 2567 ว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) - ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 380 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของปริมาณขาย และการลดลงของราคาก๊าซธรรมชาติดังกล่าวข้างต้น
โดยมีกำไรสุทธิ - ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ที่ 379 ล้านบาท ลดลงจาก 400 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนอันเนื่องมาจากจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นรายการที่ไม่กระทบกระแสเงินสดจากการแปลงมูลค่าเงินกู้ยืมสกุลดอลลาร์สหรัฐด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นงวด จากดำเงินบาทและเวียดนามดองที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์สหรัฐ
BGRIMมีปริมาณไฟฟ้าที่ขายในไตรมาส1ปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ร้อยละ 12.2 มาอยู่ที่ 3,743กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากปัจจัยหลักคือ 1) ปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ กฟผ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า SPP 3โครงการ ในเดือน มี.ค. 2566 และไตรมาส4ปี2566 รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 420 เมกะวัตต์ 2) ปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม ( IUs) ในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 และ 3)ปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ลูกค้า IUs ในประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2นอกจากนี้ปริมาณไอน้ำที่ขายให้แก่ลูกค้า IUs ในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.5จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับแนวโน้มปี 2567
บริษัทมุ่งขยายการลงทุนทั้งโครงการใหม่และการเข้าซื้อกิจการ เพื่อขยายพอร์ตการลงทุนของเราในปี 2567 จากการขยายการลงทุนที่ปล่อยก๊ซเรือนกระจกในระดับต่ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้วยประสบการณ์นการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและความมุ่งมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน BGRIM มุ่งมั่นร่วมขับเคลื่อนพลังงานสะอาดในการประกาศรับซื้อไฟฟ้าของรัฐบาลรอบถัดไป ตามระเบียบว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT)หลังจากที่ได้รับคัดเลือกในรอบแรกแล้วรวมเป็นกำลังการผลิต 339.3 เมกะวัตต์
ทั้งนี้บริษัทมีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3โครงการ ในปี 2567 ได้แก่ 1) โครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน อู่ตะเภา เฟสหนึ่ง 2) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GIFU ในประเทศญี่ปุ่น และ 3)โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม แบบติดตั้งบนบก KOPOS ในสาธารณรัฐเกาหลีใต้
ขณะที่คาดการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติต่อหน่วยสำหรับ SPP อยู่ที่ 320-350บาทต่อล้านBTU ในปี 2567 เมื่อเทียบกับที่ 377.31 บาทต่อล้าน BTU ในปี2566
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม