#NER #ทันหุ้น – NER มองแนวโน้มราคายางไตรมาส 2/2567 อยู่ในระดับที่เหมาะสม ชี้อุตสาหกรรมยางเติบโต ยานยนต์อีวีหนุนความต้องการยางพาราเพิ่มขึ้น เตรียมปรับเป้ายอดขายใหม่ ช่วงกลางปีนี้ จากเดิมตั้งไว้ที่ 510,000 ตัน และรายได้ที่ 25,000 ล้านบาท จับตามเอลนีโญส่งผลกระทบทำให้วัตถุดิบไม่เพียงพอ
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 2/2566 ปัจจุบันถือว่าราคายางอยู่ในระดับที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับราคายางในปีที่ผ่านมา โดยมีราคาอยูที่ 60 บาทต่อกิโลกรัมขึ้นไปแต่ไม่เกิน 80 บาทต่อกิโลกรัมสำหรับราคาเฉลี่ยในตลาดโลกปีนี้บริษัทคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 60-75 บาทต่อกิโลกรัม
ด้านแนวโน้มอุตสาหกรรมยางในประเทศปีนี้ยังสามารถเติบโตได้ ส่วนการเติบโตของบริษัทคาดว่าจะล้อไปกับการเติบโตของภาพรวมในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้นเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามเเละยังน่าเป็นห่วง ได้แก่ จากสถานการณ์เอลนีโญ ที่อาจจะส่งผลกระทบทำให้วัตถุดิบไม่เพียงพอในช่วงครึ่งปีหลัง และซัพพลายยางในประเทศไทยปีนี้ว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงราคาจะมีผลต่อการทำกำไรของบริษัทอย่างไรบ้าง
*ดีมานด์พุ่ง
ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีเเนวโน้มฟื้นตัวทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ยางพาราเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าในช่วงนี้เป็นบวกต่อบริษัท ส่วนความต้องการจากตลาดจีนอาจจะลดลงบ้างแต่เชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงบริษัทมีความพร้อมในการจำหน่ายยางสำหรับมาตรการ EUDR หรือ EU Deforestation-Free Regulation ซึ่งเป็นกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าที่จะเริ่มปีนี้ ซึ่งจะเป็นบวกกับบริษัทด้วยเช่นเดียวกัน เป็นโอกาสสร้างยอดขายในต่อไป
*เตรียมปรับเป้าใหม่
ด้านผลการดำเนินงานปี 2567 ปริมาณขายคาดว่าจะอยู่ที่ 510,000 ตัน คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 25,000 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 มีปริมาณขาย 497,053 ตัน คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 25,045.17 ล้านบาท
“โดยบริษัทคาดว่าในช่วงกลางปีนี้ น่าจะมีการประกาศเป้าหมายการเติบโตใหม่ เนื่องจากบริษัทเป็นโรงงานที่ผลิตสินค้า ปริมาณวัตถุดิบเป็นสิ่งสำคัญทั้งจำนวนวัตถุดิบและราคาซื้อขาย” นายชูวิทย์ กล่าว
สำหรับงบลงทุนในปี 2567 บริษัทตั้งไว้ที่ 1,700 ล้านบาท เพื่อใช้สร้างโรงงานแห่งที่ 3 แต่ปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มสร้าง จึงยังไม่มีการใช้งบลงทุน ส่วนใหญ่จะเป็นเป็นการใช้เพื่อปรับปรุงระบบภายในองค์กรและโรงงาน
*ราคาเหมาะสม 7.10 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุถึง NER แนวโน้มผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2567 คาดว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี ได้รับผลดีจากราคาขายที่เริ่มใช้ราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1/2567 ขณะที่ปริมาณการขายยังใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสแรกเพราะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ปริมาณยางออกมาน้อยกว่าที่เคยคาดไว้
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิ 454 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% YoY จากราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ภาวะแห้งแล้งทำให้คาดว่าจะมีผลผลิตยางพาราออกมาน้อยกว่าปกติ ไม่ว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีภาวะ ลานีญา ก็ตามทำให้ประเมินว่า ปริมาณขายทั้งปีจะออกมาต่ำกว่าคาดที่ระดับ 500,000 ตัน โดยรอข้อมูลที่ชัดเจนก่อนปรับประมาณการ คงคำแนะนำ ซื้อ ระยะสั้นปัจจัยบวกจากผลประกอบการช่วงไตรมาส 2/2567 ประเมินราคาเหมาะสมที่ 7.10 บาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม