15 พฤษภาคม 2024 เวลา 14:06 น.
#BRRGIF #SUPEREIF #ทันหุ้น BBLAM เผย 2 กองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่บริหาร เตรียมจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรก โดย BRRGIF ปันผลครั้งที่ 19 ในอัตรา 0.01797 บาท และเงินลดทุน 0.26 บาท วันที่ 11 มิ.ย. นี้ ส่วน SUPEREIF จ่ายปันผลครั้งที่ 18 ในอัตรา 0.22007 บาทต่อหน่วย วันที่ 7 มิถุนายน 2567 นี้
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง กรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) เตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 19 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2567 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.01797 บาท รวมทั้งจ่ายเงินลดทุนจดทะเบียนครั้งที่ 16 หน่วยละ 0.26 บาท
*BRRGIFปันผลรวมกว่า2บ.
โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ จากหน่วยละ 6.75 บาท เหลือหน่วยละ 6.49 บาท กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลและเงินลดทุน ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2567และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลและเงินลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 11 มิถุนายน 2567 เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงการประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 19 นี้ กองทุน BRRGIF จ่ายเงินปันผลแล้วรวมเป็นเงิน 2.36788 บาท และประกาศจ่ายเงินลดทุนมาแล้วรวม 16 ครั้ง คิดเป็นเงินรวม 3.81 บาท
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 นั้น กองทุน BRRGIF มีรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิฯ (NRTA) 33.16ล้านบาท ลดลง 6.30%จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมูลค่าเงินลงทุนในสัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิฯ ลดลงจากการทยอยได้รับเงินลงทุนคืน และลดลง 1.81% จากไตรมาสก่อน
อย่างไรก็ดี รายได้รวมสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 เท่ากับ 34.00 ล้านบาท (ลดลง 4.14% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 1.33% จากไตรมาสก่อน โดยประกอบด้วย รายได้จากเงินลงทุนใน NRTA 33.16 ล้านบาท และดอกเบี้ยรับ 0.84 ล้านบาท
นายพรชลิต กล่าวอีกว่า ในส่วนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี หรือ SUPEREIFจะจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 18 จากผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 หรือระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.22007 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2567และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 7 มิถุนายน 2567
*SUPEREIFปันผลครั้งที่18
เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุน จนถึงการประกาศจ่ายเงินครั้งล่าสุด SUPEREIF จ่ายเงินปันผลรวม 18 ครั้ง คิดเป็นเงิน 3.32072 บาทต่อหน่วย และจ่ายเงินลดทุนไป 4 ครั้ง คิดเป็นเงิน 0.501 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินปันผลและเงินลดทุนที่จ่ายออกไปทั้งสิ้น 3.82172 บาทต่อหน่วย
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2567 พบว่า SUPEREIF มีรายได้รวมเท่ากับ 215.0 ล้านบาท ลดลง 4.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5.6% จากไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิลดลง 4.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็น 213.9 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 13.3% จากไตรมาสก่อน
ในไตรมาสนี้ รายได้ของโครงการ เท่ากับ 272.3 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายไฟฟ้าก่อนหักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เท่ากับ 273.0 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายไฟฟ้าในไตรมาสนี้ลดลง 2.9% จากจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ขายได้ลดลง 2.9% จากผลกระทบของความชำรุดเสียหายของแผงพลังงานแสงอาทิตย์ประเภท Thin Film บางส่วน และค่าเฉลี่ยของผลรวมของรังสีแสงอาทิตย์ที่ได้รับบนแผงโซล่าเซลล์ที่ลดลง
รวมถึงระยะเวลาการหยุดผลิตไฟฟ้าจากทั้งปัจจัยภายใน (ความเสียหายของอุปกรณ์ต่างๆ ในโครงการ) และปัจจัยภายนอก (การสั่งปรับลดกำลังการผลิตไฟฟ้า หรือให้หยุดผลิตไฟฟ้าจาก กฟภ. เช่น การซ่อมบำรุงสายส่งที่ขาดบริเวณนอกโครงการ) ที่สูงกว่าในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม