> SET > BCP

17 พฤษภาคม 2024 เวลา 08:47 น.

BCP แนวโน้มแข็งแกร่งระยะยาว โบรกปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

#BCP #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทยมอง BCP แนวโน้มแข็งแกร่งในระยะยาว ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" โดยปรับปีฐานราคาเป้าหมายไปเป็นกลางปี 2568 มองเป้าที่ 46.10 บาท จาก upside ที่เพิ่มขึ้นต่อราคาเป้าหมายใหม่ และคาดว่า GRM จะฟื้นตัวภายในเดือนก.ค. 2567


โครงการ SAF จะแล้วเสร็จภายในสิ้นไตรมาส 1/68 เชื่อหน่วยผลิตนี้มีต้นทุนที่แข่งขันได้ เนื่องจากไม่ต้องลงทุนหน่วยผลิตไฮโดรเจน คาดกำไรสุทธิที่ 340 ลบ./ปี สำหรับอัตรากำไรสุทธิทุก ๆ 1 บาท/ลิตร


BCP คงผลประโยชน์จากการผนึกกำลัง > 3 พันลบ./ปี ปรับประมาณการกำไรของเราเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอใน 1H67 และ upsideจากโครงการ SAF

Investment Highlights

SAF ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ จากการประชุมนักวิเคราะห์ไตรมาส 1/2567 BCP กำลังพัฒนาหน่วยผลิตน้ำมันอากาศยานยั่งยืน (SAF) โดยมีกำลังการผลิต 1 ล้านลิตร/วัน ด้วยเงินลงทุน 8.5 พันลบ. บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการครั้งแรกได้ภายในสิ้นไตรมาส 1/2568 ปัจจุบันบริษัทฯ สามารถจัดหาน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (UCO) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักได้ 400,000 ลิตร/วัน และสามารถใช้กำลังการผลิตส่วนเหลือของหน่วยผสิตไฮโดรเจนที่โรงกลั่นของ BCP ได้ ดังนั้นผู้บริหารจึงเชื่อว่าต้นทุนการผลิต SAF นั้นจะสามารถแข่งขันได้ ทั้งนี้ แม้ว่าส่วนต่างราคา SAF-UC ในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล (42 บาท/ลิตร) แต่เราคาดว่าส่วนต่างราคาด้งกล่าวจะลดลงในอนาคต (อุปทานในภูมิภาคที่ 28 ล้านลิตร/ปี ในปี 2568) เราจึงทำการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของอัตรากำไรสุทธิทุก ๆ 1 บาท/ลิตร จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 340 ลบ./ปี


คงผลประโยชน์จากการผนึกกำลังกับ BSRC ในการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหาร BCP คงผลประโยชน์จากการผนึกกำลังระหว่าง BCP และ BSRC มากกว่า 3 พันลบ./ปี โดยส่วนใหญ่มาจากธุรกิจโรงกลั่นและโครงการประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหาร นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ริเริ่มโครงการลงทุนในหน่วยรับน้ำมันดิบในทะเล (SPM) เพื่อปรับปรุงต้นทุนค่าขนส่ง โดยสามารถใช้เรือ VLCC แทน Alframax และ Suezmax ในการขนส่งน้ำมันดิบ ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดว่าจะใช้เวลา 12 เดือนในการอัปเกรดอุปกรณ์รับน้ำมันดิบของ BSRC ด้วยต้นทุนการลงทุนเล็กน้อย โดยเราคาดว่าจะประหยัดค่าขนสงได้ประมาณ 0.5-1 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล


ปรับประมาณการกำไร บล.กสิกรไทยปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 ลง 17% เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 ของ BSRC และ BCPG นอกจากนี้ เรายังปรับลดสมมติฐานค่าการกลั่น (GRM) ปี 2567 ลง 0.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เป็น 8.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากส่วนต่างราคาดีเซลที่ลดลง อย่างไรก็ตาม เราเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568 ขึ้น 7% เป็น 1.09 หมื่นลบ. เนื่องจากเรารวม upside ของโครงการ SAF จำนวน 2.5 พันลบ. แม้ว่าประมาณการกำไรสำหรับ BSRC, BCPG และ OKEA จะปรับลดลงก็ตาม นอกจากนี้ เราเริ่มประมาณการกำไรปี 2569 ที่ 1.07 หมื่นลบ. อิงสมมติฐานค่าการกลั่น (GRM) ที่ 10.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล สำหรับโรงกลั่นของ BCP และ 6.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล สำหรับโรงกลั่นของ BSRC


Valuation and Recommendation

ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" ปรับปีฐานราคาเป้าหมายไปเป็นกลางปี 2568 ที่ 46.10 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับประมาณการกำไรของเราและการปรับปัฐานราคาเป้าหมายของเราจากสิ้นปี 2567 ไปเป็นกลางปี 2568 ราคาเป้าหมายของเราจึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 45.00 บาทเป็น 46.10 บาท โดยราคาเป้าหมายของเรายังคงตรึงไว้ที่ PBV ที่ปรับปรุงแล้วที่ 0.87 เท่า หรือระดับเฉลี่ย เนื่องจากอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) แทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 12-13% ทั้งนี้ จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาทำให้ upside ต่อราคาเป้าหมายใหม่ของเราเพิ่มขึ้น เราจึงปรับคำแนะนำสำหรับ BCP จาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" เราแนะนำให้นักลงทุนให้มองข้ามแนวโน้มกำไที่ย่ำแย่ในไตรมาส 2/2567 โดยเราคาดว่า GRM จะฟื้นตัวภายในเดือน ก.ค. 2567 จากผลกระทบของการลดอัตราการดำเนินงานของโรงกลั่นในภูมิภาคและอุปสงค์ตามฤดูกาลที่สูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X