#ทันหุ้น - 6 โบรกเกอร์ ได้ออกบทวิเคราะห์ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA หลังจากที่ได้เข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ โดยคาดการณ์แนวโน้ม Q2 ภาพรวมปี 2567 พร้อมแนะนำกลยุทธ์การลงทุน และประเมินราคาเหมาะสม
บล.ดาโอ มองอาจดีกว่าคาด จากลูกค้า datacenter และ China relocation คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 6.00 บาท อิง 2567E PBV ที่ 2.5x (+2 SD above 5-yr average PBV) (เดิมราคาเป้าหมาย 5.20 บาท อิง 2567E PBV ที่ 2.2x)
มองเป็นบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ (16 พ.ค.) จาก 1) presale ที่จะสูงต่อเนื่องใน 1-2 ปีข้างหน้า หลังจาก US เตรียมปรับขึ้นภาษีสินค้าจากจีน (รถ EV, semiconductor, solar cell และถุงมือยาง), 2) บริษัทมีโอกาสปรับเป้า presale ปี 2567E ขึ้นใน 2H67E เนื่องจากเป้าเดิมที่ 2.28 พันไร่ ไม่รวมลูกค้ารายใหญ่ที่อยู่ระหว่างเจรจา อย่างลูกค้า datacenter จำนวน 4-500 ไร่ ที่มองไทยมีต้นทุนถูกกว่าค่าไฟสิงคโปร์ และไฟฟ้ามีความเสถียรภาพกว่าเวียดนาม โดยคาดเห็นความชัดเจนกลางปี 2567E และ 3) GPM ธุรกิจนิคมจะทรงตัวสูงใน 1-2 ปี (ใกล้เคียง Q1/67 ที่ไทย 60% และเวียดนาม 57%) จากการปรับราคาขาย และบริษัทยังมีที่ดินต้นทุนต่ำในอดีต
ฝ่ายวิจัยปรับกำไรปกติปี 2567E ขึ้น +18% เป็น 5.4 พันล้านบาท (+23% YoY) และปี 2568E ขึ้น +20% เป็น 5.6 พันล้านบาท (+3% YoY) จากการปรับราคาขายที่ดิน และ GPM ขึ้น เพื่อสะท้อนการรับรู้ยอด
โอนที่ดินที่ราคาสูงขึ้น ขณะที่คงประมาณการ presale และยอดโอนที่สูงที่ 2.25/2.1 พันไร่ ตามลำดับ
ราคาหุ้น outperform SET +14%/37% ในช่วง 1และ 12 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ คงแนะนำ “ซื้อ” จากธุรกิจนิคมที่ยังเป็นช่วงขาขึ้น ตามการย้ายฐานผลิตมาไทย ทำให้แนวโน้ม presale จะดีกว่าที่คาด
*บล.บัวหลวง เห็นภาพอีกจุดเปลี่ยนสำคัญ จากการขยายอาณาจักรผ่านฐานลูกค้า 3 กลุ่ม 1) กลุ่ม EV (เดิม) 2) กลุ่มย้านฐานผลิต และ 3) กลุ่ม Digitalization ประเทศไทยจะขยับไปสู่ Data Center ในระดับภูมิภาคได้
จริงหรือไม่: หลังจากผลักดัน EV มาได้พอสมควร ฝ่ายวิจัยเริ่มเห็นการผลักกันกลุ่ม Data Center และการประกาศลงทุนในภูมิภาคของ AWS, Microsoft และ Google โดยเรามองจุดแข็งไทย คือ Location และนโยบายภาครัฐ สนับสนุนสงครามการค้า US-จีน
กำลังจะกลับมา: ซึ่งบวกจากการย้ายฐานผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรมเชื่อมโยง EV, เทคฯ และ AI ของจีน และปกติไทยจะเป็น 1 ใน Top-Destination ในใจของจีน
เริ่มต้นธุรกิจ Green Logistic: โดย WHA เปิดตัวธีมนี้ไป และใช้กับกลุ่มของตนเองแล้ว เช่น รถขนส่ง EV เป็นต้น นอกจากนี้ WHAUP ยังเตรียมลงจุดชาร์จ EV เพิ่มเติมในนิคมฯ ของ WHA ด้วย
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย: ฝ่ายวิจัยปรับสมมติฐานยอดขายและโอนขึ้น ส่งผลต่อกำไรหลักปี 2024 เพิ่มขึ้น 6% เป็น 5.3 พันล้านบาท (+20% YoY) และราคาเป้าหมายใหม่เพิ่มเป็น 6 บาท (เดิม 5.4 บาท)
ด้านปัจจัยพื้นฐาน คงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร
*บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ซื้อ” และเพิ่ม TP ปี 2567 เป็น 6.25 บาท จาก 5.70 บาท เพื่อสะท้อนความต้องการที่ดินในนิคมฯ ของ WHA ที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ ปรับเพิ่มราคาขายได้อย่างมีนัย
มีโอกาสสูงที่ WHA จะปรับเป้ายอดขายที่ดินนิคมฯ ขึ้นในไตรมาส 3/67 จาก 2,275 ไร่ เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ 2-3 รายในหลากหลายกลุ่มธุรกิจอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาสิ่งนี้จะช่วยให้ WHA มีโอกาสมากขึ้นในการรายงานกำไรที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ 3 ปีติดต่อกันในปี 2567
โดยยอดขายสินทรัพย์ไตรมาส 4/67 ที่ 5.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 50% YoY จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการเติบโต
*บล. เอเซีย พลัส ชี้แนวโน้มกำไร Q2/67 มีโอกาสย่อตัวตามปัจจัยฤดูกาล แต่ยังมีปัจจัยบวกหนุนจากการปรับราคาขายที่ดินเพิ่ม ส่งผลให้ GROSS MARGIN จากการขายที่ดินปรับเพิ่มขึ้นเป็น 55 –60% จากเดิมที่เคยทำได้ 40 –50% และประเมินว่า GROSS MARGIN น่าจะอยู่ในระดับนี้ไปอีกอย่างน้อย 2 ปี นอกจากนี้มีโอกาสที่ WHA จะปรับเป้าหมายการขายที่ดินที่เคยตั้งเป้าไว้ในช่วงต้นปีที่ 2,275 ไร่ หากเจรจากับผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อที่ดินแปลงใหญ่สำเร็จ
ปรับเพิ่มประมาณการกำไร เนื่องจากการปรับราคาขายที่ดิน ส่งผลให้รายได้และ GROSS MARGIN สูงขึ้น ได้มูลค่าเหมาะสมใหม่ที่ 6.30 บาท มี UPSIDE 15.63% ให้คำแนะนำการลงทุน OUTPERFORM
*บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มองภาพการเติบโตยังต่อเนื่องอีกหลายปี โดยความต้องการที่ดินในไทยยังแข็งแกร่งอีกหลายปี จากกระแสการย้ายฐานการผลิต และความต้องการในกลุ่ม EV และ Data Center และกำลังรุกธุรกิจ Green Logistics ซึ่งให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร โดยขยายต่อยอดมาจากฐานลูกค้าคลังสินค้าเดิม
แนวโน้มกำไร Q2/67F แข็งแกร่งต่อเนื่อง ตามโมเมนตัมการโอนที่ดินที่ดี และการเติบโตสม่ำเสมอของธุรกิจโลจิสติกส์และสาธารณูปโภค แนะนำ “ซื้อ” จากภาพการเติบโตยังมีความต่อเนื่อง แนวโน้มกำไร Q2/67F แข็งแกร่ง และมีโอกาสปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินเพิ่มขึ้น ให้ราคาเหมาะสมที่ 5.80 บาท
*บล.เคจีไอ Sentiment ยังเป็นบวก ทุกธุรกิจน่าจะดีหมดในปีนี้ ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้บ้าง แต่คงคำแนะนำ “ถือ” และ คงราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 5.30 บาท
คงเป้ายอดขายปี 2567 ไว้ที่ 2,275 ไร่ ผู้บริหารยังมองว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตจากประเด็นความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และ คาดว่าอุปสงค์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมจะแข็งแกร่งในระยะต่อไป ทั้งนี้ เมื่อแบ่งตามสัญชาติผู้ซื้อ ลูกค้าจีนจะมีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดประมาณ 20% ของพอร์ตทั้งหมดของ WHA (ในช่วงปี 2563 – Q1/67 ลูกค้าจีนคิดเป็น 62% ของพอร์ตทั้งหมด) แต่เมื่อแบ่งตามประเภทอุตสาหกรรม คาดว่ากลุ่มยานยนต์น่าจะเป็นกลุ่มนำ เพราะกลุ่มยานยนต์คิดเป็น 31% ของพอร์ตทั้งหมดของ WHA
ทั้งนี้ หลังจากที่ WHA ขายที่ดินได้ 575 ไร่ ใน Q1/67 ผู้บริหารยังคงเป้ายอดขายที่ดินปี 2567 ไว้ที่ 2,275 ไร่ (ในประเทศไทย 1,650 ไร่ และ ในเวียดนาม 625 ไร่) อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังเจรจากับลูกค้าเป้าหมายซึ่งคาดว่าจะปิดดีลได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2567 ดังนั้น จึงอาจจะทำให้ยอดขายที่ดินมี upside อีก และ อาจจะทำให้มีการปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินในครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง บริษัทจะเดินหน้าพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายที่ดินประมาณ 2,000 ไร่ต่อปี ในอีกสี่ปีข้างหน้า
ตั้งเป้าโครงการใหม่ / เพิ่มพื้นที่ปล่อยเช่า 200,000 ตรม. ธุรกิจ logistic โดยธุรกิจ Logistic เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้แบบ recurring ให้กับ WHA โดยมีสินทรัพย์ที่บริษัทเป็นเจ้าของ และ อยู่ภายใต้การบริหารรวม 2.9 ล้านตรม. บริษัทตั้งเป้าโครงการใหม่ / เพิ่มพื้นที่ปล่อยเช่าสุทธิ 200,000 ตรม. ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 ล้านตรม. โดยบริษัทยังจะใช้การขายสินทรัพย์เข้ากองทุน (asset monetization) เป็นหนึ่งในช่องทางบริหารจัดการเงินทุน ซึ่ง WHA ตั้งเป้าจะขายสินทรัพย์ 213,000 ตรม. ให้กับ WHART (มูลค่า 5.3 พันล้านบาท) และ อีก 40,000 ตรม. ให้กับ WHAIR (มูลค่า 1 พันล้านบาท) ในปีนี้
คาดว่าธุรกิจสาธารณูปโภค และไฟฟ้าจะฟื้นตัวขึ้น ธุรกิจสาธารณูปโภค และ ไฟฟ้าเป็นอีกแหล่งรายได้แบบ recurring ของ WHA ซึ่งคิดเป็นประมาณ 27% ของรายได้รวมในปี 2566 โดยบริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภค และ ไฟฟ้าเป็น 30% ของรายได้รวมในปี 2571 นอจกากนี้ WHA ยังตั้งเป้าอัตราการเติบโตของปริมาณยอดขายน้ำปีนี้ไว้ที่ 15% (หลังจากที่ปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้น 16% ใน Q1/67) เนื่องจากอุปสงค์โตตามอุปสงค์ยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม) ในขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะเซ็น PPA เพิ่มเป็น 1,000MW ในปี 2567 จาก 858MW ในปี 2566 ทั้งนี้ การที่ธุรกิจสาธารณูปโภค และ ไฟฟ้าฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดความผันผวนของรายได้ที่เกิดจากธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม
มุมมองบวกผู้บริหาร อาจทำให้ราคาหุ้น overshoot โอกาสเก็งกำไร มุมมองที่ค่อนไปทางบวกของผู้บริหารต่อการปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินน่าจะทำให้ภาวะตลาดเป็นบวกกับราคาหุ้น และ อาจจะเป็นโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้บ้าง เรามองว่า Upside ของยอดขายที่ดินในปีนี้จะช่วยให้ประมาณการกำไรปี 2567 และ 2568 มี upside อีกประมาณ 6-10% อย่างไรก็ตาม เรามองว่าการที่บริษัทจะรักษายอดขายที่ดินไว้ให้อยู่ในระดับสูง / ทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีต่อ ๆ ไปถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย
คงคำแนะนำ “ถือ” WHA และ คงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ซึ่งคำนวณโดยวิธี SOTP เอาไว้ที่ 5.30 บาท ด้านความเสี่ยง ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical risk), เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ภัยธรรมชาติ, การซื้อที่ดิน, การกระจุกตัวของกลุ่มอุตสาหกรรม, เงินทุนไม่เพียงพอ
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม