#GULF #BH #ทันหุ้น

 – วันจันทร์ -ติดตาม การให้สัมภาษณ์ของทางประธาน BOJ Kazuo Ueda ต่อทิศทางนโยบายการเงิน ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐและสหราชอาณาจักร ปิดทำการ

วันอังคาร - ติดตาม ตัวเลขดัชนีรายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Conference Board Consumer Confidence) ของสหรัฐ สำหรับเดือนเม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 96.5 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 97 จุด ต่อด้วยดัชนีราคาที่อยู่อาศัย (FHFA House Price index) ของสหรัฐ สำหรับเดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์เพิ่มขึ้นที่ 0.5% MoM ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.2% MoM

วันพุธ - ติดตาม ตัวเลขดัชนีภาคการผลิต Richmond Manufacturing Index ของสหรัฐ สำหรับเดือน เม.ย. ตลาดคาดที่ -6 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -7 จุด

วันพฤหัสบดี -  ติดตาม รายงานคาดการณ์การเติบโต GDP ของสหรัฐ ใน 1Q/24 โดยเป็นการประกาศเพื่อทบทวนตัวเลขครั้งที่ 2 (Preliminary Version) ตลาดคาดการณ์ที่ 1.2% YoY เทียบกับก่อนหน้าที่ 1.6%YoY ต่อด้วยติดตามตัวเลขจำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาข้อมูลรายงานที่ 2.15 แสนราย

วันศุกร์ - ติดตามตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ของญี่ปุ่นเดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.6% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ต่อด้วยรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (Manufacturing PMI) โดยเดือนก่อนหน้ารายงานที่ 50.4 จุด ปิดท้ายด้วยติดตามตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE Price Index) ของสหรัฐ สำหรับเดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย : KS เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,350-1,370 จุด ปัจจัยต่างประเทศตลาดหุ้นสหรัฐ เริ่มมีแรงขายทำกำไรหลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ และสัญญาณทางเทคนิค RSI เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป ข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตสหรัฐ เบื้องต้นเพิ่มขึ้น 50.9 และภาคบริการพุ่งขึ้น 54.8 ดีกว่าคาด ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง 8,000 ราย ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 2 ปีเพิ่มขึ้นที่ 4.92% และ 10 ปีที่ 4.46% ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool คาดเฟดอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยปีนี้เพียง 1 ครั้งในเดือน พ.ย. การรายงานผลประกอบการบริษัทใน S&P500 มี 466 บริษัทรายงานแล้ว 77% ดีกว่าคาด คิดเป็นการเติบโตของกำไรไตรมาส 1 ที่ 7.6% สำหรับปัจจัยภายในประเทศ การส่งออกไทยเดือน เม.ย. ขยายตัว 6.3% YoY คิดเป็น 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์ หนุนจากสินค้าเกษตร อาทิ ข้าว ยางพารา และอาหารสัตว์เลี้ยง สินค้าอุตสาหกรรม อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ และเครื่องจักรและชิ้นส่วน บริษัทในตลาดหุ้นไทยรายงานงบไตรมาส 1 แล้ว 74% กำไรออกมาดีกว่าคาด 55%, ตามคาด 11% และต่ำกว่าคาด 34% โดยรวมกำไรโตลดลง -0.14% นักวิเคราะห์ประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยปี 2024 ทรงตัวที่ 94.57 (-0.00% WoW)

ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,350 – 1,370 จุด คาดตลาดอยู่ในโหมดปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) จากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานจากแรงขายทำกำไร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เน้นการซื้อหุ้นแบบ Defensive ในกลุ่มโรงพยาบาลและโรงไฟฟ้า

Top Pick

BH : ราคาพื้นฐาน 262 บาท

บริษัทรายงานรายได้รวมที่เติบโตขึ้น 7.7% YoY มีปัจจัยหนุนจากจำนวนคนไข้ที่เพิ่มขึ้น 2.1% และการปรับขึ้นค่าบริการ 6% ซึ่งมากพอที่จะชดเชยความซับซ้อนของโรคที่ลดลง 2.5% เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติขึ้น 6-8% ในปี 2024-26 เพื่อสะท้อนกำไรที่ออกมาดีเกินคาดในไตรมาส 1/2024 โดยเรายังไม่รวมสาขาภูเก็ตในประมาณการของเรา

GULF: ราคาพื้นฐานที่ 50.50 บาท

บริษัทรายงานกำไรปกติอยู่ที่ 4.2 พันลบ. เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 13% QoQ เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 2/2024 จะเพิ่มขึ้นทั้งเชิง YoY และ QoQ รวมถึงคาดจะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า IPP GULF ยังคงมีความน่าสนใจจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่สดใส และการขยายพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายไปยังธุรกิจอื่นๆ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=