นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า ช่วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน เป็นช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจเกษตร เพราะเกษตรกรจะทำการปลูกพืชผลทางการเกษตรไว้แล้วก่อนหน้านี้ ทำให้การใช้อุปกรณ์เครื่องจักรกลทางการเกษตรถูกใช้งานในปริมาณมากช่วงที่ผ่านมา ส่วนช่วง 3-4 เดือนนี้ปริมาณการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรอาจจะชะลอตามซีซั่น และกลับมาพีคในช่วงไตรมาส 4/2567
แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซัน แต่บริษัทไม่ได้หยุดแผนการตลาด โดยสินค้าที่ไม่ใช่กลุ่ม บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทผลิตและขายภายใต้แบรนด์สินค้า “Pegasus” ทั้งใบจักร ใบผาล ใบคัดท้าย ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียง และเป็นการเปิดตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทขาย และส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าเวียดนามแล้ว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4-5 ล้านบาท ส่วนที่เมียนมามีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาแล้วจำนวน 6 พันใบ และอยู่ระหว่างเตรียมผลิตสินค้า
นอกจากนี้บริษัทมองหาโอกาสการขยายฐานไปสู่ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะที่อินโดนีเซีย คาดจะเป็นตลาดการขายสินค้าทางการเกษตรที่มีขนาดใหญ่ เพราะจำนวนประชากร และพื้นที่ทาการเกษตรของอินโดนีเซียกว้างมาก คาดจะเห็นความชัดเจนในอีก 6 เดือนข้างหน้า ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการขายให้กับกลุ่ม บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด คิดเป็น 75% และนอกตูโบต้า คิดเป็น 25%
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตอยู่ที่ 1.2 พันใบต่อวัน และจะพยายามเพิ่มกำลังผลิต ให้เป็น 1.5 พันใบต่อวัน เพื่อรองรับการขยายตลาดในอนาคต
นายเอกพันธ์ กล่าวต่อว่า ในครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทมีแผนจะเพิ่มเครื่องจักรและระบบออโตเมชั่น โดยจะใช้งบลงทุนประมาณ 20-30 ล้านบาท เพื่อลดแรงงานคน คาดจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น เนื่องจากระบบออโตเมชั่นจะช่วยผลิตสินค้าได้มากกว่าใช้แรงงานคน อีกทั้งบริษัทจะใช้ระบบ AI มาช่วยดูการผลิตแบบเรียลไทม์ หากผลิตสินค้าเสียหาย หรือระบบผิดพลาด บริษัทจะรับรู้ทันที และสามารถแก้ไขได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอการแก้ไขข้ามวัน
บริษัทมองภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศอาจจะไม่ดีมากนัก แต่บริษัทมีนวัตกรรมที่ดี ดังนั้นเชื่อว่าสินค้านวัตกรรมใหม่จะสนับสนุนยอดขายสินค้าอุปกรณ์การเกษตรให้เติบโตดีขึ้น และเชื่อว่าในปีนี้พืชผลทางการเกษตรจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน ทำให้บริษัมองภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรก 2567 จะดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน และในครึ่งปีหลัง 2567 คาดจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก
นายเอกพันธ์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทวางแผนงานเพิ่มเติม โดยเดินทางจะไปเจรจากับซัพพลายเออร์ประเทศจีน เพื่อนำเหล็กรุ่นใหม่มาผลิตเป็นใบผลาญอีกระดับหรืออีกรุ่นหนึ่ง คาดจะเริ่มลงทุนตลาดในปี 2568 เป็นต้นไป โดยเหล็กรุ่นใหม่จะมีคุณภาพกว่าเดิม โดยบริษัทจะเริ่มนำเหล็กใหม่เข้ามาทดสอบในช่วงต่อจากนี้ ประกอบกับการเปลี่ยนรุ่นใหม่จะช่วยควบคุมซัพพลายเออร์ให้ส่งเหล็กให้บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง 3 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้ที่ 154.27 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 17.47 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม