นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮมพอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกระดับสากล เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทจะเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 จะเห็นตัวเลขการผลิต ภายหลังจากการต่อเตาเผาเพิ่มเติม โดยจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนมากขึ้น เพราะบริษัทต่อเตาเผาในช่วงไตรมาส 2/2567 ที่ผ่านมา แต่ยังเห็นตัวเลขไม่ชัดเจน ส่วนในครึ่งปีหลัง 2567 หากเดินเครื่องเตาเผา คาดจะช่วยสนับสนุนกำลังการผลิตได้อีก 10% จากกำลังผลิตเต็มประสิทธิภาพของเตาเผาใหม่ที่ 40%
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจะเพิ่มเครื่องจักรขนาดเล็ก เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังผลิตของเตาเผา โดยงบประมาณที่จะใช้ซื้อเครื่องจักร รวมอยู่ในงบ17-20 ล้านบาท ส่วนยอดแบ็กล็อกที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน อยู่ในระดับสูงที่ 80-90 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบในช่วง 3 เดือนข้างหน้า
บริษัทมองภาพตลาดต่างประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 จะมีออเดอร์เข้ามาใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก 2567 ซึ่งออเดอร์ที่เข้ามาเป็นไปตามแผน โดยบริษัทต้องการเพิ่มปริมาณการขายให้สูงขึ้น ขณะที่ในประเทศบริษัทขายผ่าน บริษัทย่อย หรือ บริษัท เซ็นทรัล ฮอสพิแทลลิที จำกัด หรือ CHL สำหรับแนวโน้ม 6 เดือนแรกของปี 2567 หากเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน การขายในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทมองแนวโน้มอัตราการทำกำไรในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก 2567 เพราะช่วงที่ผ่านมาบริษัทผลิตสินค้าพรีเมียมที่เป็นของแถมกับอุปกรณ์ จาน ชาม หรืออุปกรณ์เครื่องครัว ขณะเดียวกันสินค้าขายดีในขณะนี้เป็นเครื่องครัวที่ใช้ในโรงแรม ร้านอาหาร มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นกว่าการผลิตสินค้าพรีเมียมที่เป็นของแถม ทำให้แนวโน้มอัตราการทำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในครึ่งปีหลัง 2567 จะดีขึ้นจากครึ่งปีแรก ส่วนยอดขายทั้งปีนี้คาดจะทำได้ตามเป้าที่ประมาณ 15-20%
ส่วนภาพรวม Gross Profit Margin ปีนี้คาดจะทำได้ในระดับ 20-25% ขณะที่การขายสินค้าในปัจจุบันของ HPT สัดส่วนการขายไปต่างประเทศ มากที่สุดคือยุโรป รองลงมาคือเมริกา และประเทศไทย
บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่มสโตนแวร์ ซึ่งผลิตโดยพันธมิตรของบริษัท โดยการเปิดตลาดใหม่ ปัจจุบันการขายกลุ่มสโตนแวร์อยู่ที่อเมริกา ส่วนยุโรปยังมีสัดส่วนการขายน้อย อีกทั้งบริษัทขายสินค้ากลุ่มสโตนแวร์ได้เพียง 2-3 ปีเท่านั้น ดังนั้นโอกาสและการทำตลาดมีความเป็นไปได้มากที่จะขยายธุรกิจ และขายสินค้ากลุ่มนี้ได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้บริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนการขายกลุ่มสโตนแวร์อีก 2-5% เพื่อให้มีความสมดุล หรือใกล้เคียงกับการขายสินค้ากลุ่มไฟไชน่า
อนึ่ง 3 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 72.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.27 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม