JTS กำไร 191 ลบ. เพิ่มขึ้น 2,228% ธุรกิจหลักเติบโต-กำไรบิทคอยน์หนุน

#JTS #ทันหุ้น - บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 191.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.271บาท เพิ่มขึ้น 2,228% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.21 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0012 บาท

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 324.61 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.459 บาท เพิ่มขึ้น 4,912% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.009 บาท

รายได้รวม

รายได้รวมไตรมาสที่ 2/2567จำนวน 764.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175.32ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29.76 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 62.68 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.93 เมื่อเทียบกับโตรมาสก่อนโดยมีรายได้หลักจาก

ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม เพิ่มขึ้น 16.63 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.24 เมื่อเทืยบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11.86 ล้านบาท คิดเป็นร้อยร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สาเหตุจากการให้บริการวงจรเช่าในประเทศ และระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น

ธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ เพิ่มขึ้น 36.74 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 126.95 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 31.54 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.44 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนสาเหตุจากในไตรมาสที่ 2/2567 ปริมาณการขุดบิทคอยน์ลดลงภายหลังช่วง Bitcoin halving โดยราคาเหรียญมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2567 จำนวนเหรียญบิทคอยน์คงเหลือ 174.3828 เหรียญ

ต้นทุนขายและค่าใช้จ่าย

ต้นทุนขายและบริการ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ไตรมาสที่ 2/2567 จำนวน 526.39 ล้านบาท ลดลง 28.54 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.14เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7.64ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.47 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุจาก

ต้นทุนขายและบริการ เพิ่มขึ้น 7.96 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.12เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12.21ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.29 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน การเพิ่มขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรายได้ขายอุปกรณ์ Server และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้น

ต้นทุนเหมืองขุดบิทคอยน์ ลดลง 38.11 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29.95 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 2.21 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.42 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สาเหตุหลักเกิดจากในไตรมาสที่ 2/25666 มีบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าอาคารและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ลดลง 3.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.72 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.42 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.84 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนทักดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย(EBITDA) ในไตรมาสที่ 2/2567 จำนวน 327.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.71 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 83.09 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/2567 จำนวน 191.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182.94 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2,201.44เมื่อเทืยบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กลุ่มบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมมีการเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกปี ประกอบกับธุรกิจเหมืองชุดบิทคอยนได้รับปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นขึ้นของราคาเหรียญ

แผนธุรกิจในอนาคต และเหตุการณ์ในไตรมาสที่ 2/2567

ในปี 2567 บริษัทฯ คาดการณ์การเติบโตทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้พัฒนาต่อยอดธุรกิจ เป็นรากฐานที่สร้างความมั่นคง ตลอดจนยกระดับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้

ธุรกิจและองค์กรของลูกค้า โดยได้เริ่มโครงการและขยายโครงการตามที่ได้วางกลยุทธ์ไว้ ดังนี้

ธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (Generative AI)

บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามกับ KT ในสัญญาพัฒนาแพลตฟอร์ม Generative AI ไตรมาสที่ 1/2567 และมีแผนเตรียมเปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรกภายในไตรมาสที่ 4/2567

ธุรกิจโครงข่ายโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต และให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง

ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลุ่มบริษัทได้เริ่มแผนขยายโครงข่ายและศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในไตรมาสที่ 2/2567ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3/2567 เพื่อต่อยอดบริการให้ลูกค้าได้อย่างครบวงจร และเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ Generative AI ในอนาคต

ธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์

ในไตรมาสที่ 1/25667ได้เริ่มโครงการเพิ่มกำลังการขุดบิทคอยน์ โครงการนี้ได้แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และโครงการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ซึ่งคว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3/2567 สำหรับราคาเหรียญนิทคอยน์ (BTC) ได้ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ปลายปี 25666 และยังคงระดับราคามากกว่า 50,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน ธุรกิจบิทคอยน์ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีโดยได้รับปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะถูกปรับลดลงตามที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 3/2567 ซึ่งจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เงินทุนหมุนมายังตลาด BTC เพิ่มขึ้น