> เคล็ดลับลงทุน >

05 กันยายน 2024 เวลา 06:20 น.

โปรดระวัง กันยาพาพัง

#ทันหุ้น-เปิดสถิติการเคลื่อนไหวของ S&P500 ในเดือน ก.ย. ดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ เนื่องจากเดือน ก.ย. มักเป็นเดือนที่ตลาดหุ้นสหรัฐให้ผลตอบแทนแย่ที่สุดของปี (เดือนอื่นๆ จะปรับเพิ่มขึ้นกันหมด) โดย 10 ปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนเฉลี่ย -2.4% ด้วยความน่าจะเป็น 70% (ปรับลดลง 7 จากใน 10 ปีหลังสุด)


ยิ่งปี 2024 นี้ ตั้งแต่ พ.ค. -ส.ค. S&P500 มีการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน ได้อย่างแข็งแกร่งจนทำ All Time High ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะมีการปรับฐานหนักเมื่อต้น ส.ค. แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราวไม่ทันไรดัชนีก็ตีคืนพร้อมทำ New High ได้อีก ทำให้ในช่วงเดือน ก.ย. มีโอกาสสูงที่จะเริ่มโดยแรงขายทำกำไร กดดันให้ดัชนีเข้าสู่ปรับฐานเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาในทุกปี


นอกจาก S&P500 แล้ว สินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ก็มักลงในเดือน ก.ย. เช่นกัน MSCI World Index ปรับร่วงทุกปีใน 4 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ย -4.3% เช่นเดียวกับราคาทองที่นิยมลงในเดือน ก.ย. 10 ปีที่ผ่านมาลงมันทุกปีเฉลี่ย -4.0% สวนทางกับการแข็งค่าของ US Dollar ชอบแข็งค่าใน ก.ย. โดยเฉพาะ 4 ปีล่าสุดแข็งค่าทุกปีเฉลี่ย 2%


Event ที่ต้องจับตามองในเดือน ก.ย ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ คือ


1. ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ ในวันศุกร์ที่ 6 ก.ย. ตลาดคาดอัตราว่างงานจะลดลงมาที่ 4.2% และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.65 แสนตำแหน่ง ทั้งนี้หากรายงานออกมาดีกว่าคาด ตลาดจะเบาใจเรื่อง Recession และ Fed แต่หากออกมาต่ำกว่าคาดมากๆ น่าจะเกิดคลื่น panic อีกครั้ง


2. การดีเบตครั้งแรกระหว่างคู่ท้าชิงตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ Kamala Harris และ Donald Trump ในวันที่ 10 ก.ย. ตามสถิติคนที่ชนะการดีเบตในเดือนนี้มักจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งใน พ.ย. ฉะนั้นการดีเบตนี้จึงเป็นที่จับตาของทั่วโลก หาก Donald Trump ชนะการดีเบตได้ US Dollar จะแข็งค่าแรง และตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะจีนอาจปรับฐานแรงได้


3. การประชุม FOMC ในวันที่ 17-18 ก.ย. ยังคงมีความไม่แน่นอนว่า Fed จะเอายังไง จะปรับลด 25bp หรือ 50bp อย่างไรก็ตามประธาน Fed Jerome Powell ได้กล่าวในแจ็คสันโฮลว่าการอ่อนตัวลงของตลาดแรงงานต่อไปจะเป็นสิ่งที่ "ไม่พึงปรารถนา" ทำให้ทุกอย่างน่าจะขึ้นอยู่กับข้อมูลการจ้างงานในวันที่ 6 ก.ย. นี้ หากการจ้างงานออกมาดีกว่าคาด Fed น่าจะยังเลือกส่งสัญญาณที่ไม่ทำให้ตลาดตกใจโดยไม่จำเป็น ด้วยการลดดอกเบี้ยเพียง 25 bps (การลดดอกเบี้ยมากเดินไปจะทำให้ตลาดเข้าใจผิดว่าจะเกิด Recession)


จากสถิติและ Event ต่างๆ ในเดือน ก.ย. จะเห็นได้ว่าเป็นความเสี่ยงที่จะสร้างความผันผวนให้กับสินทรัพย์ต่างๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ จึงควรเน้นไปที่การทยอยลดน้ำหนักการลงทุน ขายสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะในกลุ่ม Equity ที่ให้ผลตอบแทนมาค่อนข้างมากแล้ว และโยกเงินไปพักใน Money Market รอการปรับฐานของตลาด ก่อนจะมารับซื้อคืนอีกครั้ง ทีมกลยุทธ์ MPAM แนะนำกอง Money Market เป็น KKP-MP เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลธนาคารแห่งประเทศไทย 83.6% ที่เหลือเป็นพันธบัตรรัฐบาลไทย



ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X