#CPAXT #ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,355 ก่อนที่จะฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน 1,365 ถ้ายังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 1,370 ขึ้นไปได้ แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับฐานลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,350 และ 1,330
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ CPAXT หรือบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าศูนย์การค้า
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 67 มีกำไรสุทธิ 2,175 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.21 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 66 มีกำไรสุทธิ 1,515 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.14 บาท
ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ 4,657 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.44 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน 6 เดือนของปี 66 มีกำไรสุทธิ 3,681 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.35 บาท
CPAXT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 สร้างรายได้รวม 126,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% และกำไรสุทธิ 2,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.5%เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลจากการเติบโตของทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ที่มีการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) โดยเฉพาะจากการขายออนไลน์และการขายนอกร้าน (Omni Channel) ตอกย้ำความสำเร็จตามเป้าหมายกลยุทธ์องค์กร
นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 บริษัทเติบโตต่อเนื่อง มีกำไรสุทธิ 2,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.5% โดยมีรายได้รวม 126,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สะท้อนศักยภาพการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมของธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ทั้งในและต่างประเทศ เป็นผลจากยอดขายสาขาเดิมที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะยอดขาย Omni Channel มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 17.2%ของยอดขาย สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงการขยายสาขา และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากค่าเช่าและการให้บริการศูนย์การค้า โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่ ณ สิ้นไตรมาสอยู่ที่ 93%และจากผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาส 2 ดังกล่าว ส่งผลให้ครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,657 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.5%จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์ที่ตั้งไว้ ได้แก่ ความแข็งแกร่งด้านอาหารสดและอาหารแปรรูปจากการผนึกกำลังของบริษัท และบริษัทย่อย เพื่อพัฒนาต่อยอดอาหารสด อาหารแช่แข็ง อาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน และเบเกอรี่ รวมทั้งสร้างความแตกต่าง และเพิ่มกำไรด้วยการขยายสัดส่วนยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท (Private Label) การเติบโตผ่านทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะการเพิ่มยอดขาย Omni Channel ที่เน้นความหลากหลายของสินค้า การพัฒนาบริการ และการขยายพื้นที่ให้บริการ รวมถึงการใช้จุดแข็งของแม็คโคร-โลตัส ที่มีสาขารวมกว่า 2,600 สาขาทั่วประเทศ เป็นจุดกระจายและส่งสินค้า ควบคู่การพัฒนาทีมนักขายนอกร้านให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการได้อย่างครบถ้วนการเดินหน้าขยายสาขาใหม่และปรับโฉมสาขาเดิมในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง ควบคู่พัฒนาศูนย์การค้าให้เป็น Smart Community Center ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่มในแต่ละพื้นที่
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มด้านข้าง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 34.00 และ 35.00 เป็นแนวต้านสำคัญ แต่ถ้าหลุดต่ำกว่า 30.00 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 28.00
ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม