นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนงาน 5 ปี มีโครงการที่แข็งแกร่ง มี Net Profit มากกว่า 12% และย้ายเข้าซื้อขายตลาด mai ไปตลาดหลักทรัพย์ SET รวมถึงสามารถคืนหนี้ และลงทุนเพิ่มเติม โดยบริษัทมีแนวคิดร่วมมือกับพันธมิตร ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับบ้านผู้สูงอายุ จาก Aging Society (สังคมผู้สูงอายุ) ซึ่งอยู่ระหว่างการทำวิจัย โดยจะร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมนี้ อาจจะเห็นในอีก 3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ KUN มีที่ดินเป็นจำนวนมาก ที่ยังเก็บเอาไว้ใช้ในส่วนของการสร้างบ้านผู้สูงอายุแปลงละ 3-5 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างหาแนวทางความรู้ในการสร้างและบริหาร ซึ่งยังอยู่ในช่วงของการศึกษา
สำหรับทิศทางอสังหา ยังชะลอตัว แต่ติดลบน้อยลง เริ่มมีสัญญาณเป็นบวก จากที่ผ่านมา มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ทยอยออกมา ทำให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อมากขึ้นตั้งแต่ในช่วงมิถุนายน 2567
ในฝั่งของความต้องการซื้อ (Demand) กำลังซื้อในประเทศอ่อนแอลงในภาคอสังหาริมทรัพย์ จึงอยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุน เนื่องจากฝั่งอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเครื่องจักรในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจอื่นๆ ไปได้อีกมาก อยากให้ช่วยเหลือให้กลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านสามารถซื้อได้ง่ายขึ้น โดยการผ่อนปรนสินเชื่อรายย่อย และให้ต่างชาติสามารถเช่าซื้อในระยะยาว น่าจะทำให้ดีมานด์มีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น
ด้าน Supply อยากให้ภาครัฐสนับสนุนการเงินให้กับการลงทุนผู้ประกอบการขนาดเล็ก-ใหญ่ และให้ Soft loanบ้านในระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันบ้านจะต้องสร้างเสร็จจึงจะขายได้ ซึ่งในฝั่งของ Supply มีการจัดการได้ดี ในส่วนของดอกเบี้ยนโยบายควรจะลดลง ขณะที่ผู้ประกอบการมีโอกาสตลาดยอดเข้าชมโครงการยังเหมือนเดิมไม่ได้ลดลง แต่ยอดปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4/67 ไปถึงไตรมาส 1/68 จะเป็นช่วงที่สำคัญกับการซื้อบ้าน เนื่องจากใกล้สิ้นปีมีการสร้างครอบครัวใหม่ จัดงานแต่งงาน มีการย้ายงาน ได้รับโบนัส ทำให้มีความมั่นใจในการซื้อบ้านของลูกค้ามากขึ้น อีกทั้งปลายปีมีการท่องเที่ยวคึกคักถือเป็นโอกาสซื้ออสังหาริมทรัพย์
ปัจจุบันบริษัทมี 9 โครงการ มูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบางบัวทอง 7 โครงการ และโครงการพระราม 2 จำนวน 1 โครงการ ทั้งหมด 480 ยูนิต มีการโอนตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2566และรังสิต 1 โครงการ จำนวน 880 ยูนิต บนที่ดิน 330 ไร่ ซึ่งโครงการพระราม 2 และรังสิต มีมาร์จิ้นที่ดี
ทั้งนี้บริษัทมียอดรอโอน (Backlog) จำนวน 300.79 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในอีก 4 เดือนข้างหน้า สำหรับโครงการในปี 2568 ไม่ได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติม เนื่องจากลงทุนซื้อที่ดินขนาดใหญ่ไปก่อนหน้านี้แล้ว ที่จะรองรับการพัฒนา 9 โครงการ เปิดแล้ว 2 โครงการ เหลืออีก 7 โครงการ ที่สามารถพัฒนาโครงการได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม