ผู้สื่องานรายงานว่า ล่าสุดทางสมาคมอสังหาริมทรัพย์ได้มีการยื่นข้อเสนอมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาทิ การฟื้นโครงการบ้านดีฟรีดาวน์ โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินดาวน์ผู้ซื้อบ้านหลัง แรกจำนวน100,000 บาทสำหรับบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ฯลฯ ให้กับทางคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรี “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” เพื่อช่วยสนับสนุนภาพรวมเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
*ลุ้นรัฐคลอดบ้านฟรีดาวน์หนุน
ด้านนายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า สำหรับโครงการบ้านดีฟรีดาวน์นั้นหากเกิดขึ้นจริง บริษัทมองน่าจะกลายเป็นประเด็นช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศขยายตัว รวมทั้งน่าจะผลักดันให้ยอดขายของ NCH ขยับเพิ่ม เพราะปัจจุบันธุรกิจมีที่อยู่อาศัยที่เข้าเงื่อนไขกรอบราคาเป็นจำนวนมาก
ทัังนี้ จากการสำรวจข้อมูลที่อยู่อาศัยพร้อมโอน (สต็อก) ของบริษัทนั้นมีมูลค่าคิดเป็นอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งคงจะกลายเป็นอีกปัจจัยช่วยสร้างรายรับเพิ่มเติม ตลอดจนสนับสนุนภาพรวมธุรกิจในอนาคต
*ครึ่งหลังสวย
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอโอน (Backlog) คิดเป็นตัวเลขอยู่ที่ราว 400 ล้านบาท จากโครงการต่างๆ อาทิ เอ็น.ซี. ออนกรีน ฌาร์ม คลาสสิค, เอ็น ซี ออน กรีน ปาล์ม พาร์ค 2, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ลอฟท์ พัทยา, บ้านฟ้า กรีนพาร์ค ธาม, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ธีโอ ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ธีโอ ปิ่นเกล้า – เพชรเกษม ฯลฯ ซึ่งน่าจะสามารถดำเนินการส่งมอบและทยอยโอนต่อเนื่องไปจนถึงช่วงไตรมาส 4/2567
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2567 ทาง NCH ประเมินว่าน่าจะสามารถปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งแรกปีเดียวกันที่มีรายได้ประมาณ 685 ล้านบาท เนื่องจากโดยปกติแล้วในช่วงปลายปีนั้นถือเป็นฤดูกาลาขาย (ไฮซีซัน) ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริษัท ส่งผลให้ยอดขายที่อยู่อาศัยเติบโตมากขึ้น
*ย้ำฐานะการเงินแกร่ง
นายสมนึกกล่าวเสริมว่า ในแง่ฐานะทางการเงินของบริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCHในปัจจุบันนั้นถือว่าแข็งแกร่ง โดยมีตัวเลขอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ราว 0.70 เท่า อีกทั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทาง NCH ได้มีการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดวงเงินราว 150 ล้านบาท ดังนั้นนักลงทุนจึงมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทได้
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ไทย
สำหรับรายละเอียดของมาตรการนี้จะมีการปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 ซึ่งลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จาก 1% เหลือ 0.01% เฉพาะที่จดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน โดยเงื่อนไขการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ อาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว หรือห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด โดยมีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อสัญญา โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน ซึ่ฝสำหรับผู้ซื้อที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย และมีผลจนวันที่ 31 ธันวาคม 2567
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม