> รู้ทันการลงทุน > ตลาดหุ้นไทย

15 ตุลาคม 2024 เวลา 06:00 น.

รู้ทันการลงทุน : สำรวจศักยภาพ Data Center ไทย

#BLS #UPS #ทันหุ้น-จากการรับฟังข้อมูลเชิงลึกจากงาน “From Pad Thai to Petabytes” ทีมวิจัยหลักทรัพย์ของหลักทรัพย์บัวหลวง สรุปประเด็นหลัก ๆ ได้ว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพมากในการขยายการดำเนินงานดาต้าเซ็นเตอร์ และสามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI แต่อาจยังต้องปรับปรุงส่วนประกอบบางอย่างให้ลงตัว บทความนี้จะมาสรุปไฮไลต์ฉบับย่อให้ได้อ่านกัน


ในขณะที่โลกเทคโนโลยีก้าวไปสู่การพัฒนานวัตกรรม CPU/GPU ทาง DELTA กำลังพัฒนาสองผลิตภัณฑ์หลัก เพื่อรองรับงานด้าน AI ที่ต้องการความสามารถในการระบายความร้อนมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิม โดย 70% ของวิธีการระบายความร้อนในปัจจุบันคาดว่าจะถูกแทนที่ด้วยการระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งทำให้ CDU กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของดาต้าเซ็นเตอร์ โดยทาง DELTA กำลังพัฒนาระบบระบายความร้อนและ CDU ในโรงงานที่ไต้หวัน


ในด้านของ UPS ปัจจุบันความต้องการพลังงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการความจุของแบตเตอรีเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า โดยขยายจากกิโลวัตต์ (kW) เป็นเมกะวัตต์ (MW) ขณะที่ Containerized DCs ก็กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากช่วยลดงบลงทุน ส่วนด้านการแข่งขันสำหรับ UPS แม้จะมีความเข้มข้น แต่ DELTA ยังคงเป็นผู้นำในด้านการระบายความร้อน ปัจจุบัน DELTA เป็นผู้บุกเบิกและยังคงเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรวมแล้วผลิตภัณฑ์ของ DELTA คิดเป็น 5-6% ของงบลงทุนดาต้าเซนเตอร์ สำหรับระบบ UPS และ 6% สำหรับโซลูชั่นการระบายความร้อน

ทางด้าน DELTA และ National Telecom (NT) เห็นตรงกันว่า การเติบโตของดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย ต้องการการพัฒนาที่สำคัญ 2 ประการ ได้แก่ การเชื่อมต่อและทรัพยากรพลังงาน ปัจจุบันประเทศไทยมีสายเคเบิลใต้ทะเลเพียง 8 เส้น เทียบกับมาเลเซียที่มีถึง 20 เส้น ซึ่งจำกัดการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ สำหรับในประเทศแม้ว่า 


เราจะมีเครือข่ายดาร์คไฟเบอร์หลักที่กว้างขวาง แต่ความครอบคลุมก็จำกัดอยู่เพียงบางพื้นที่ ซึ่งทรัพยากรพลังงานจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC และต้องมีการจัดการความเสี่ยงจากน้ำท่วม


ทั้งนี้ผู้ให้บริการรายใหญ่หลายรายในปัจจุบันต้องการพลังงานสีเขียว เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ESG และ RE100 แต่ประเทศ ซึ่งไทยยังตามหลังประเทศอย่างอินโดนีเซียในด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน เราคาดว่าการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้โครงการพลังงานหมุนเวียนและโครงการเชื่อมต่อ (ITEL, SYMC, ALT) เติบโตควบคู่กันไปเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของไทย


ในด้านอุปสงค์ภายในประเทศถือเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดการลงทุนในไทย (70% ของการตัดสินใจ) 


ส่วนอัตราการว่างในดาต้าเซ็นเตอร์ของไทยอยู่ที่ 21% และเรายังอยู่เพียง 50-60% ของเส้นทางการเติบโตของดาต้าเซ็นเตอร์ จึงยังมีพื้นที่สำหรับการขยายตัวอีกมาก ปัจจุบันภาครัฐมีงานในมืออยู่ และกำลังผลักดันกลยุทธ์มัลติคลาวด์ภายใต้นโยบาย "cloud first" ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการดำเนินงานและเพิ่มความยืดหยุ่นในโครงการของรัฐบาล โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงระบบการจัดซื้อจัดจ้างบริษัทอย่าง Microsoft ที่กำลังเพิ่มความร่วมมือกับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในท้องถิ่น นอกเหนือจากดาต้าเซ็นเตอร์ยังมีความต้องการผู้ให้บริการด้านไอทีในท้องถิ่น (SIs, BBIK, BE8, SRS, TBN, DITTO) ในการจัดการการปรับแต่งและการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งไทยได้พิสูจน์แล้วว่า มีความเปิดกว้างต่อ Gen AI 


(อ้างอิงข้อมูลวิเคราะห์ TMT STRATEGY ฉบับ 4 ต.ค.67)

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X