TISCO โบรกมองกำไรลด-ปันผลดี DBSV-INVX แนะ“ถือ” ลดเป้าราคา บล.บัวหลวงแนะ “ขาย”

#TISCO #ทันหุ้น – ภายหลังจาก TISCO ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 ออกมาลดลงเล็กน้อยเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โบรกเกอร์หลายรายออกบทวิเคราะห์หุ้น TISCO ในวันที่ 16 ต.ค. โบรกเกอร์ส่วนให้คำแนะนำ “ถือ” โดยให้ราคาเหมาะสมในช่วง 92-111.50 บาท โดย บล.กรุงไทยเอ็กซ์สปริงให้คำแนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 111.50 บาท ขณะที่มีโบรกเกอร์ 2 รายปรับลดราคาเหมาะสมของหุ้น TISCO ลง คือ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ลดจาก 107 บาทเป็น 105 บาท แนะนำ “ถือ” และ บล.อินโนเวสท์เอกซ์ปรับลดลงจาก 105 บาทเป็น 103 บาท แนะนำ “ถือ” ในขณะที่บล.บัวหลวงเป็นโบรกเกอร์รายเดียวที่ให้คำแนะนำ “ขาย” TISCO ให้ราคาเหมาะสม 92 บาท

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์สระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มไตรมาส 4/67 คาดว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะดีขึ้น QoQ โดยไตรมาส 4 เป็นช่วงที่ความต้องการใช้สินเชื่อเพิ่มขึ้น (มีงานมอเตอร์โชว์) รายได้จากธุรกิจขายประกันดีขึ้น ขณะที่ต้นทุนทุนการเงินทรงตัว รายได้ค่าธรรมเนียมสูงขึ้น แต่การตั้งสำรอง ECL ก็คาดว่าจะสูงขึ้นทำให้กำไรสุทธิน่าจะลดลง YoY และ QoQ

บล.ดีบีเอสฯ คงคำแนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 105 บาท อิงกับ PIBV ปี 2568 ที่ 2.0 เท่า (Mean+1SD) ทั้งนี้ คาดว่ากำไรก่อนสำรองปี 2568 จะเติบโต YoY แต่การตั้งสำรอง ECL เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิจะอ่อนลง -5.6%YoY ในปี 2568 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าธนาคารยังจ่ายปันผลสูง โดยประเมิน DY ไว้ที่ 8% ต่อปี (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)

ธนาคารมี SET ESG Ratings : AAA และมี CG Report : 5 ดาว

บล.อินโนเวสท์เอกซ์ปรับประมาณการกำไรปี 2568 ลดลง 4% เนื่องจากบล.อินโนเวสท์เอกซ์ปรับประมาณเการ credit cost ปี 2568 เพิ่มขึ้น 10 bps เพื่อสะท้อนเป้าหมายล่าสุด สำหรับปี 2568 คาดว่ากำไรจะลดลง 6% โดยอิงกับ credit cost ที่เพิ่มขึ้น 45 bps (กลับสู่ระดับปกติ) NIM ที่เพิ่มขึ้น 9 bps (ใช้สมมติฐานว่ามีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) และการเติบโตของสินเชื่อที่ 1% กำไร 9M67 คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา (-5%) เราคาดว่ากำไร 4Q67 จะอยู่ในระดับทรงตัวตัว QoQ (ECL สูงขึ้น, non-NII สูงขึ้น) แต่จะลดลง YoY (ECL สูงขึ้น)

อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจแม้เราคาดว่ากำไรจะลดลงในปี 2567 และปี 2568 แต่บล.อินโนเวสท์เอกซ์คาดว่า TISCO จะยังคงจ่ายเงินปันผลที่ 7.7 บาท/หุ้นในปี 2567 (อัตราการจ่ายเงินปันผล 89%) และปี 2568 (อัตราการจ่ายเงินปันผล 96%) ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลระดับสูงที่ 7.96% ด้วยอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนระดับสูงที่ 19% (17.2% สำหรับเงินกองทุนชั้นที่ 1) และการขยายสิบเชื่อค่อนข้างจำกัด TISCO จึงน่าจะยังคงจ่ายเงินปันผลระดับสูงต่อไปอีกหลายปี โดย TISCO มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่เกิน 100%

คงคำแนะนำ NEUTRAL บล.อินโนเวสท์เอกซ์คงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ TISCO โดยปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 105 บาท สู่ 103 บาท (อ้างอิง PBV ปี 2568 ที่ 1.9 เท่า) เนื่องจากเราปรับประมาณการ credit cost ปี 2568 เพิ่มขึ้น

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดและไม่ทั่วถึง 2) ราคารถมือสองลดลง และ 3) ความเสี่ยง ESG ด้านการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct)

บล.บัวหลวงคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 5%YoY (คาด NIM จะลดลงและการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น) และ ทรงตัว QoQ (สินเชื่อที่เติบโตจะกลบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

บล.บัวหลวงคาดกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 6.8 พันล้านบาท ลดลง 7% YoY เนื่องจาก NIM ที่ลดลง และอัตราการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น เมื่อมองไปยังปี 2568 บล.บัวหลวงคาดกำไรสุทธิที่ 6.5 พันล้านบาท ลดลง 4% YoY เนื่องจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น

คำแนะนำ

PER ปี 2567 ของ TISCO อยู่ที่ 11.9 เท่า ทั้งนี้ PBV สิ้นปี 2568 อยู่ที่ 1.8 เละ ROE อยู่ที่ 14.9% ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วน PBV/ROE ที่ 0.118 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่บล.บัวหลวงให้คำแนะนำที่ 0.0084 เท่า แม้ว่าคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันปันผลจะอยู่ที่ประมาณ 8% สำหรับทั้งปี 2567 และ 2568 แต่บล.บัวหลวงไม่คาดว่ากำไรจะเตินโตในปี 2567-2568 เนื่องจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น บล.บัวหลวงยังคงคำแนะนำ "ขาย” TISCO สำหรับหุ้นในกลุ่มธนาคารบล.บัวหลวงชอบ BBL, KBANK, และ KTB มากที่สุด