#SM #ทันหุ้น - SM ชี้ดอกเบี้ยขาลงส่งผลต้นทุนการเงินลด 2-3% แต่ยอมรับงบไตรมาส 3/2567 แผ่วตามปัจจัยฤดูกาล แล้วจะเร่งตัวชัดไตรมาสสุดท้ายผลดีรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ  ย้ำเป้ารายได้ 2567 โต 15-20% พอร์ตสินเชื่อขยายตัว 40-50% แย้มกำลังเร่งปิดดีลธุรกิจพลังงานสะอาดเพิ่มชัดเจนต้นปี 2568

นายชูศักดิ์  วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SM ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกัน รวมถึงจำหน่ายสินค้าประเภทไอที รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งในรูปแบบเงินสดและเงินผ่อน เปิดเผยกับ "ทันหุ้น"ว่า จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพิ่งลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี เป็น 2.25% จะส่งผลบวกต่อต้นทุนการเงินบริษัทให้ลดลงประมาณ 2-3% ขณะที่ในประเทศธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เริ่มประกาศลดอัตราดอกเบี้ยตามแล้ว เชื่อว่าในปี 2568 ทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาลงต่ออีก สอดคล้องกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยต่อ

ด้านผลประกอบการบริษัทช่วงไตรมาส 3/2567 แม้เป็นไปตามแผนงาน ทว่าโดยรวมเมื่อเทียบกับช่วงอื่นของปีอาจไม่โดดเด่นซึ่งเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล ฤดูฝนทำให้ยอดขายเครื่องปรับอากาศลดลง ส่วนยอดขายเครื่องซักผ้าที่เพิ่มขึ้นพอเข้ามาทดแทนได้บ้าง

@ไตรมาส 4 คึกคัก

แต่ไตรมาส 4/2567 จะกลับเข้าสู่ช่วงการจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งที่ผ่านมามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลรวมถึงการแจกเงิน 10,000 บาท ช่วยกระตุ้นเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจได้ชัดเจน ลูกค้ามีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นและมีความสามารถในการชำระหนี้ดีขึ้น บริษัทจึงเร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผลักดันยอดสินเชื่อ

บริษัทมุ่งเน้นขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงตลาดเติบโตเร็ว ให้อัตรากำไรสูงกว่าสินค้าอื่น อีกทั้งยังเพิ่มช่องทางการขายให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งในส่วนออฟไลน์และออนไลน์ โดยจะเป็นการเปิด Shop มือถือเพิ่มเติมในทำเลพื้นที่ที่มีศักยภาพ และเปิด Shop มือถือเพิ่มเติมในรูปแบบ Shop In Shop ในสาขาย่อยอีกกว่า 60 สาขา และมีความร่วมมือทำตลาดกับพันธมิตรร้านตู้และร้านโทรศัพท์มือถือ

โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มหน้าร้านการขายมือถือและปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อมือถือให้ครบ 98 สาขา ซึ่งบริษัทได้เปรียบในแง่ของการหมุนของสินค้าเนื่องจากสาขาของบริษัท 96 สาขาอยู่ในภาคตะวันออกพื้นที่เขต EEC

@เป้าสินเชื่อโต 40-50%

ทั้งนี้คงเป้าหมายรายได้ปี 2567 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปีก่อน พอร์ตสินเชื่อรวมเติบโตในกรอบ 40-50% คาดอยู่ที่ระดับราว 2,900 ล้านบาท พร้อมกับควบคุมคุณภาพหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NLPs) ให้อยู่ในระดับ 4% และมีอัตรากำไรที่ดีขึ้นได้

การดูแลคุณภาพหนี้บริษัทได้นำระบบบล็อกโฟนที่มีประสิทธิภาพมาใช้ทำให้การจัดเก็บหนี้มีคุณภาพ ผลตอบแทนของเช่าซื้อมือถือล็อกโฟนค่อนข้างสูงปรับขึ้นสู่ดอกเบี้ย 3% ต่อเดือนแล้ว จากก่อนหน้านี้ดอกเบี้ย 2.1% ต่อเดือน ซึ่งการเช่าซื้อมือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มีเพดานดอกเบี้ย ประเมินตลาดมือถือในภาคตะวันออกมีมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท

ดังนั้นจึงมั่นใจว่า บริษัทมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก โดยนอกจากรายรับดอกเบี้ยแล้วในการขายมือถือบริษัทจะได้รับมาร์จิ้นราว 15% ส่วนการเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าบริษัทได้ปรับดอกเบี้ยเพิ่มเติมมาเป็น 2% ต่อเดือนแล้ว จากก่อนหน้านี้ดอกเบี้ย 1.6% ต่อเดือน

สำหรับการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญกรณีสินเชื่อรถบรรทุกรายใหญ่ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา 2 รายการ ยอด 31 ล้านบาท และ 16 ล้านบาท ตามลำดับ ยังคงอยู่กระบวนการรอคำสั่งตัดสินจากศาลแพ่ง โดยคาดหวังจะทยอยบังคับคดีทั้งหมดได้ตั้งแต่ปลายปีนี้ไปถึงไตรมาสแรกปี 2568 

 @ ดีลพันธมิตรเพิ่ม

นอกจากนี้บริษัทกำลังเจรจากับพันธมิตรหลายรายเพื่อสร้างความร่วมมือด้านพลังงานทดแทน โดยจะมีการลงนามสัญญาบันทึกความเข้าใจ หรือ MoU ในเร็วๆ นี้ และคาดมีความชัดเจนอย่างเป็นทางการต้นปี 2568 โดยดีลที่เจรจาเกี่ยวข้องกับธุรกิจต่างๆ เช่น สินค้าก่อสร้าง ที่พัก สำนักงาน นิคมอุตสาหกรรม กลุ่มเกษตร เป็นต้น ซึ่งเป็นคนละส่วนกับความร่วมก่อนหน้านี้ที่ได้ทำโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ Solar Rooftop กับ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW