นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจรที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต เปิดเผยว่า การที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า (EUDR) ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 นั้น
แม้ว่าการเสนอครั้งนี้จะยังไม่มีผลอย่างเป็นทางการ แต่ท้ายที่สุดเชื่อว่าจะมีโอกาสสูงที่สภาและคณะมนตรียุโรปเห็นชอบตามข้อเสนอ ซึ่งอาจส่งผลต่อกระทบห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจยางในภาพใหญ่เพียงระยะสั้น
ทว่าไม่ได้กระทบทิศทางผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากรายได้จากธุรกิจยางเป็นสัญญาที่ทำไว้แล้ว และยังคงมีผลอยู่ต่อไป และปริมาณการสั่งซื้อก็ยังคงเดิม แม้ว่าจะมีการเลื่อนการบังคับใช้ EUDR ออกไป ลูกค้าในยุโรปส่วนใหญ่ยังคงต้องการวัตถุดิบที่ตรงตามข้อกำหนด EUDR อยู่ แต่อาจมีการเจรจาเรื่องโครงสร้างราคาเพื่อความเป็นธรรมและเสถียรภาพของตลาดบ้าง
@ปลายปีราคายางเสถียรภาพ
คาดการณ์ช่วงท้ายปี 2567 ราคายาง EUDR เริ่มกลับเข้าสู่เสถียรภาพหลังจากระยะที่ผ่านมาชะลอตัวลงเล็กน้อย ขณะที่บริษัทยังคงเป้าหมายปริมาณขายยาง EUDR เพิ่มขึ้นเป็น 40% ของปริมาณขายยางทั้งหมด และประเมินยอดขายยางแท่งในปีนี้จะเติบโตได้ระดับไม่ต่ำกว่า 10% เทียบปี 2566 ที่ยอดขายเท่ากับ 197,000 ตัน
ส่วนกำลังการผลิตยางแท่งภายในสิ้นปี 2567 จะเพิ่มเป็น 3.9 แสนตัน เทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.2 แสนตัน และในปี 2568 กำลังการผลิตยางแท่งจะเพิ่มเป็น 4.3 แสนตัน ในช่วงไตรมาส 3/2568
ด้านธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มหลังจากการขยายเครื่องจักรโครงการติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ และหม้อนึ่งต่อเนื่องจะส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมปีนี้ดีขึ้น และคาดผลประกอบการพลิกฟื้นชัดเจนขึ้นในปีหน้า
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบ เช่น Skincare และการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
@รับรู้รายได้พลังงานทดแทน
สำหรับธุรกิจพลังงานทดแทนได้เริ่มรับรู้รายได้ในเดือนตุลาคมแล้ว โดยบริษัทเตรียมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ผลิตก๊าซชีวภาพโซน 3 เฟสที่ 2 ในครึ่งหลังของปี 2568 สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด
อนึ่ง TEGH มีเป้าหมายยอดขายปี 2567 ที่ 15,000-16,000 ล้านบาท สัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจยางพาราประมาณ 85% ปาล์มน้ำมัน 13-15% และพลังงานทดแทน 1% และในปี 2568 สัดส่วนรายได้อาจจะใกล้เคียงปัจจุบันทว่าธุรกิจพลังงานจะให้มีส่วนแบ่งกำไรมากขึ้น
@โบรกชี้ผลกระทบเกิดปี 68
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า ประเด็นการชะลอการใช้เกณฑ์ EUDR โดยหากสภาและคณะมนตรียุโรปอนุมัติตามที่คณะกรรมาธิการเสนอ จะส่งผลให้ชะลอการเริ่มใช้เกณฑ์สำหรับบริษัทขนาดใหญ่เป็น วันที่ 30 ธันวาคม 2568 และสำหรับบริษัทขนาดเล็ก เป็นวันที่ 30 มิถุนายน 2568 อย่างไรก็ตามคาดไม่กระทบกำไรของปี TEGH ในปี 2567 เนื่องจากยังมีปัจจัยสนับสนุนกำไรงวดครึ่งปีหลังอยู่
และภายใต้ประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์มองการขายยาง EUDR ในปีนี้ไม่มาก แต่อาจกระทบกำไรปี 2568 เนื่องจากอาจเห็นคู่ค้าบางส่วนชะลอการสั่งซื้อยาง EUDR ซึ่งจะทำให้ยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นลดลงได้ ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเพื่อการปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย แต่ยังคงแนะนำซื้อในเชิงพื้นฐาน
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม