> SET > PRM

31 ตุลาคม 2024 เวลา 13:52 น.

'ทิสโก้' ส่อง PRM กำไรลดแค่ชั่วคราว ระยะกลางยังดี มูลค่าหุ้นถูกแนะสอย

#ทันหุ้น - บล.ทิสโก้ สแกน หุ้นบริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ปรับลดประมาณการกำไรสำหรับ Q3/67 เพื่อสะท้อนผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งซึ่งกระทบรายได้สกุลเงิน US$ จากธุรกิจ Offshore, FSU และธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบ (COC) ซึ่งมีมูลค่าประมาณ US$40 ล้าน ประกอบกับบริษัทนำเอาเรือ Aframax 1 ลำไปดัดแปลงเป็น FSO ก่อนกลับมาให้บริการในเดือนธ.ค. ส่งผลให้กำไร Q3/67 ลดลง QoQ แต่ยังคงเติบโตดี YoY  อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยคาดกำไร Q4/67 จะดีขึ้น และจะดีขึ้นอีกในปีหน้า เนื่องจากจะมีเรือ Crew Boat เข้ามาใหม่อีก 4 ลำ ดังนั้นยังคงคาด Core profit จะเติบโตทำ New high ต่อเนื่องทุกปี จากการเพิ่มกองเรืออย่างต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PER ปี 2567 ที่ 8.1x เท่านั้น และคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 10.70 บาท



คาดกำไร Q3/67 ลด QoQ แต่ยังเติบโต YoY เนื่องจากนำเรือไปดัดแปลงและบาทแข็ง โดยคาดกำไรสุทธิใน Q3/67 จะอยู่ที่ 497 ลบ. (+51% YoY, -22.5% QoQ) ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากฝ่ายวิจัยคาดว่าในไตรมาสนี้ บริษัทจะมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง 40 ลบ. เนื่องจากบริษัทมีการทำ Forward Contract ไว้แต่ค่าเงินแข็งค่าขึ้นมากช่วงปลายไตรมาส (หากอัตราแลกเปลี่ยนปลาย Q4/67 เท่ากับปัจจุบันบริษัทจะกลับรายการเป็น FX Gain) หากไม่รวม FX Loss กำไรจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 537 ลบ. (เติบโต 55% YoY แต่ลดลง 16% QoQ) 


โดยกำไรที่โต YoY มาจาก คาดรายได้เติบโต 20% และ Gross margin ดีขึ้นจาก 29.9% มาอยู่ที่ 36.1% ซึ่งมาจากผลการดำเนินงานของทุกธุรกิจดีขึ้น (ยกเว้นธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบ) ส่วนที่คาดกำไรลด QoQ เนื่องจากคาดรายได้ลด 7.5% หลักๆ จากธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบที่รายได้ลดหลังจากบริษัทเอาเรือ Aframax ไปดัดแปลงเป็น FSO ทำให้เรือลำนี้ขาดรายได้ไป 5 เดือน ก่อนจะกลับมาให้บริการ PTTEP ในเดือนธ.ค. 


นอกจากนั้นบริษัทยังมีการเปลี่ยนเรือ VLCC 1 ลำในเดือนก.ค.ทำให้เสียเวลาไป 3 สัปดาห์ แต่เรือที่ได้กลับมาก็จะมี Efficiency มากขึ้น ส่วน Gross margin คาดว่าจะลดลง QoQ จาก 38.9% เป็น 36.1% แต่ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะได้ชดเชยบางส่วนจาก S&A expenses ที่คาดว่าจะลด 10% QoQ เนื่องจากในไตรมาสนี้บริษัทไม่ได้มีบันทึกโบนัสพนักงานเหมือนในไตรมาสที่แล้ว


แนวโน้มกำไร Q4/67 ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จะเติบโตต่อเนื่องใน Q1/68 เนื่องจากเรือ Aframax ที่นำไปดัดแปลงเป็น FSO จะกลับมาให้บริการในเดือนธ.ค. ส่วนธุรกิจอื่นมีแนวโน้มเป็นบวก ธุรกิจขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (PCT) น่าจะดีขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ช่วง high season ส่วนธุรกิจ FSU มีแนวโน้มเป็นบวกเพราะดีมานด์ดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นแนวโน้มมาร์จิ้นยังดีขึ้นด้วยจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงซึ่งบริษัทเป็นคนจ่ายมีแนวโน้มลดลง ในส่วนธุรกิจ Offshore แนวโน้มดีต่อเนื่องจากเรือที่เพิ่มขึ้นและเต็มทุกลำ และมีการต่อสัญญากับลูกค้าในช่วง 2H ทำให้ได้เรทราคาใหม่ที่ดีกว่าเดิมมาก 


แนวโน้ม Q1/68 ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรจะเติบโตขึ้นไปอีก เนื่องจากในปีหน้าบริษัทจะมีเรือ Crew Boat ลำใหม่อีก 2 ลำ โดยมี Target COD ในเดือนมี.ค. และก.ค. 2568 นอกจากนั้นบริษัทกำลังจะซื้อเรือ Hybrid Crew Boat เข้ามาเพิ่มอีก 2 ลำให้บริการลูกค้ากลุ่มใหม่จากต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเซ็นสัญญาในเดือนพ.ย.และเริ่ม Operate ในเดือนม.ค.2568 และบริษัทยังได้สั่งต่อเรือ Small tanker ใหม่ขนาด 2500 DWT อีก 6 ลำโดยมีกำหนดการรับเรือปลายปี 2025 ส่วนแผนที่จะซื้อเรือ Aframax และ FSU ลำใหม่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ 


คงคำแนะนำ “ซื้อ”โดยมูลค่าเหมาะสมยังอยู่ที่ 10.70 บาท  จากแผนของบริษัทที่กล่าวข้างต้นทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่าบริษัทจะทำกำไรปกติ New high ทั้งในปีนี้และปีหน้า ดังนั้นคงประมาณการกำไรและมูลค่าที่เหมาะสมที่ 10.70 บาท ซึ่งอิงจาก PER 10 เท่า ปี 2567 (คิดจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของหุ้น) ฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำซื้อ ปัจจัยเสี่ยงมาจากความผันผวนราคาพลังงานที่จะส่งผลต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุน



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X