#CPN #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์หุ้น CPN โดย บล.กสิกรไทย , บล.เมย์แบงก์, บล.พาย, บล.บัวหลวง และบล.ทิสโก้
บล.กสิกรไทย : การโอนฯที่ชะลอและขาดทุน FX กระทบกำไรไตรมาส 3/67
บล.กสิกรไทยคาดว่า CPN จะรายงานกำไรไตรมาส 3/67 ที่ 4 พันลบ. ลดลง 3% YoY และ 12% QoQ แม้ว่าบล.กสิกรไทยมองว่าธุรกิจศูนย์การค้าและโรงแรมจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ แต่การโอนฯ ที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวและขาดทุน FX ส่งผลกระทบต่อกำไรไตรมาส 3/67
GPM ที่แข็งแกร่งขึ้นถือเป็นปัจจัยบวกหลักในไตรมาส 3/67 ตรงกันข้ามกับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้นในธุรกิจที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ช่วงเทศกาล การโอนฯ Backlog ที่สูง และกำไรจาก FX จะเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวของกำไรไตรมาส 4/67 QoQ
บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเหมาะสมกลางปี 2568 ที่ 78.00 บาท
.
บล.เมย์แบงก์ : CPN คงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 79.00 บาท
บล.เมย์แบงก์ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" CPN เนื่องจาก 1) คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของกำไรหลักในปี 66-69 อยู่ที่ 8% ต่อปี และ 2) Valuation ถูก โดย CPN ซื้อขายที่ P/E ล่วงหน้า 1ปีที่ 16 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5ปีที่ 23 เท่า อยู่ 28%เราปรับราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF ขึ้นเป็น 79.00 บาท จาก 77.50 บาท หลังปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 68 โดยราคาเป้าหมายใหม่นี้สะท้อน P/E ปี 68 ที่ 20 เท่า ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรหลักในไตรมาส 3/67 จะทรงตัว YoY ก่อนจะเติบโต 3% YoY ในไตรมาส 4/67
.
บล.พาย : ไตรมาส 3/67 สะดุดบ้างเพราะบ้านและค่าเงิน
บล.พายคาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/67 จะออกมาต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2/66 โดยได้รับผลกระทบหลัก 2ประการได้แก่รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวหลังรับรู้ไปมากในไตรมาสที่ผ่านมา และผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทำให้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามากว่า 300 ล้านบาท แต่ธุรกิจหลักอื่นยังดีอยู่ทั้งในกลุ่มค่าเช่า ศูนย์อาหาร และโรงแรม โดยบล.พายคาดไว้ที่ 3,924 ล้านบาท (-6%YoY,-14%QoQ) สำหรับแนวโน้มช่วงไตรมาส 4/67 บล.พายคาดว่าจะเห็นรายได้กลับมาเติบโตจากไตรมาส 3/67 ได้จากผลดีของการเป็นช่วง High Seasons ของธุรกิจ ทั้งนี้ บล.พายยังแนะนำ "ซื้อ" เช่นเดิมเพราะมองว่าจะได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
.
บล.บัวหลวง : มองลบเล็กน้อยต่อแนวโน้มงบไตรมาส 3/67 ที่อ่อนแอกว่าตลาดคาด
แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 อาจต่ำกว่า Bloomberg คาดเล็กน้อย 4,178 ลบ. เพราะยอดโอนโครงการคอนโดและแนวราบอ่อนแอ และจะมีบันทึก FX loss ราว 300 ลบ.
บล.บัวหลวงคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 จะเหลือ 4,077 ลบ. อ่อนตัว 2% YoY หรือลดลง 11%QoQ เกิดจาก 1. ยอดโอนโครงการคอนโดและแนวราบอ่อนแอเหลือ 974 ลบ. ปรับลง 50%YoY และ 50%QoQ สาเหตุมาจากการเร่งโอนคอนโดช่วงไตรมาส 2/67 และความต้องการกลุ่มแนวราบแย่ลง ยอด cancellation กลุ่มแนวราบเพิ่มเป็น 30-40% ในขณะที่ด้านธุรกิจศูนย์การค้าและสำนักงานยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง อัตราใช้พื้นที่ยังใกล้เคียงไตรมาส 2/67 คาดอัตรากำไรขั้นต้นยังดีขึ้น YoY จากต้นทุนค่าสาธารณูปโภคต่อหน่วยที่ต่ำกว่าปีก่อน
2. จะมีบันทึก FX loss ราว 300 ลบ. จากการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า
บล.บัวหลวงมองลบเล็กน้อยต่อแนวโน้มงบไตรมาส 3/67 ที่อ่อนแอกว่าตลาดคาด โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ปัจจุบัน บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 67 ที่ 7,000 ลบ.จากงวด 9 เดือน 67 ที่จะรับรู้เพียง 4,236 ลบ. ทำให้รายได้อาจมี downside จากตลาด ทั้งนี้ บล.บัวหลวงอยู่ระหว่างศึกษาหุ้น CPN คาดจะมีออกคำแนะนำและราคาเป้าหมายอีกครั้ง
ทิสโก้ : ผลประกอบการหลักในไตรมาส 3/67 มั่นคง; รายการพิเศษกดดันการเติบโต
แนวโน้มมั่นคงพร้อมการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
คาดว่าเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) จะมีผลประกอบการที่มั่นคงในไตรมาส 3/67 เราประมาณการกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสนี้ที่ 4.14 พันล้านบาท ลดลง 9% QoQ และลดลง 1% YoY การคาดการณ์นี้ อ้างอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในธุรกิจหลักของบริษัท แม้จะมีความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในกลุ่มที่อยู่อาศัยและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
การดำเนินงานด้านค้าปลีกและโรงแรมที่แข็งแกร่ง
คาดว่าพอร์ตศูนย์การค้าของ CPN จะมีผลการดำเนินงานที่ดี โดยมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการในสาขาเดิมใกล้เคียง 95% ของระดับปี 2562คาดการณ์ว่ายอดขายของผู้เช่าจะแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในกลุ่มอาหารและแฟชั่น ศูนย์การค้าในต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่รองรับนักท่องเที่ยว คาดว่าจะมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง การเปิดโรงแรมฮิลตัน การ์เดน อินน์ ระยอง เมื่อเร็วๆ นี้ ช่วยขยายการให้บริการด้านโรงแรมของ CPN เสริมกับผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะแข็งแกร่งของแบรนด์แกรนด์ เซ็นทารา ที่สำคัญคาดว่ารายได้ค่าเช่าและบริการจะเติบโต YoY
การอัพเดทตลาดที่อยู่อาศัย: ยอดโอนลดลง 50% QoQ
ยอดจองไตรมาสนี้ได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่สองโครงการคือ เอสเซ็นท์หาดใหญ่ 2 และเอสเซ็นท์ ภูเก็ต อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้โดยรวมจากการโอนที่อยู่อาศัยจะอ่อนตัวลงในไตรมาสนี้ เนื่องจากมีจำนวนยูนิตที่กำหนดโอนน้อยลง สะท้อนถึงจังหวะเวลาของการเสร็จสิ้นโครงการ และการโอนยอดคงค้าง CPN ยังคงมีพอร์ตที่อยู่อาศัยที่สำคัญ โดยมีโครงการที่ดำเนินการอยู่ 29 โครงการ และมีเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่ 7 พันล้านบาท
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 300 ล้านบาทท่ามกลางความผันผวนของค่าเงิน
ผลประกอบการของ CPN จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม คาดว่าบริษัทจะมีการเติบโตของรายได้ค่าเช่าและบริการ โดยได้แรงหนุนจากการมีส่วนร่วมของทรัพย์สินที่เพิ่งเปิดให้บริการ การบริหารการเงินเชิงรุกของ CPN รวมถึงกิจกรรมการรีไฟแนนซ์เมื่อเร็วๆ นี้ ควรช่วยสนับสนุนเสถียรภาพ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและอัตราค่าเช่าที่เอื้ออำนวย
แนวโน้มเชิงบวกสำหรับเซ็นทรัลพัฒนา; ผลประกอบการในไตรมาส 4/67 ที่แข็งแกร่งตามฤดูกาล
แนวโน้มของ CPN ยังคงเป็นบวกและบล.ทิสโก้ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับบริษัท คาดว่าผลประกอบการในปี 2568 จะได้รับแรงหนุนจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ รวมถึงเซ็นทรัล กระบี่ และเซ็นทรัล ดุสิต พาร์ค ตลอดจนการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทรัพย์สินที่มีอยู่ CPN กำลังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในนวัตกรรมผ่านการร่วมทุนในเทคโนโลยีค้าปลีก ความพยายามเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ ผนวกกับการลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจหลัก ทำให้ CPN อยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับความสำเร็จในระยะยาว ทั้งนี้ บล.ทิสโก้คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ CPN โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 83.00 บาท
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม