> ประกัน > BLA

06 พฤศจิกายน 2024 เวลา 12:00 น.

BLAจัดแคมเปญใส่ใจโค้งท้าย สู่เป้าหมายเบี้ยFYPหมื่นล.ปี69

#BLA #ทันหุ้น BLA เดินกลยุทธ์โค้งท้าย ผ่านแบรนด์แคมเปญ “ใส่ใจ” สร้างการรับรู้กับการให้ที่มากกว่าซื้อประกันให้คนที่รัก แต่คือการดูแลอย่างใส่ใจ หวังช่วยหนุนเป้าหมาย เบี้ยFYP แตะหมื่นล้านบาทในปี 2569มองดีมานด์ประกันสุขภาพหนุนอุตสาหกรรมเติบโต ชี้ ดึง Co -paymentมาใช้ช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้ภาคธุรกิจ แต่ต้องเร่งทำความเข้ากับกับผู้เอาประกัน


นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA กล่าวว่า ในโค้งท้ายปลายปี บเป็นช่วงที่ธูรกิจประกันชีวิตคึกคักมากจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการวางแผนภาษี เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์หลายกลุ่ม ทั้งประกันชีวิตที่ความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ประกันสุขภาพ และประกันบำนาญ สามารถนำเบี้ยมาหักลดหน่อยภาษีได้ ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่ภาคธุรกิจจะมีการออกแคมเปญสร้างการรับรู้ ในผลิตภัณฑ์ และบริการที่ให้มากกว่าความคุ้มครอง


“กลยุทธ์ในช่วงโค้งท้าย BLA รุกทุกช่องทาง โดยแบงก์แอสชัวรันส์ เรานำผลิตภัณฑ์ เกนเฟิสต์ ประกันสะสมทรัพย์ ที่มีเงินปันผล คือนอกจากผลประโยชน์ตามที่การันตีในเงื่อนไขสัญญาแล้ว ยังมีโอกาสได้รับเงินปันผลจากการลงทุนโดยบริษัทอีกทางด้วย ขณะที่ช่องทางตัวแทนก็จะมีการเน้นสินค้าในกลุ่มประกันบำนาญ เป็นแบบพาร์โปรดักษ์ (Par Product) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนร่วมในเงินปันผล ผู้ซื้อกรมธรรม์จึงมีโอกาสรับเงินผลตอบแทนได้มากขึ้น”


ทั้งนี้ BLA ได้ออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มประสบกาณ์ที่ดีทุกก้าวเดินให้กับลูกค้าBLAในช่วงโค้งท้ายของปีนี้ BLA จึงได้ส่งแบรนด์แคมเปญ “ใส่ใจ” สื่อภาพลักษณ์ผ่านปรัชญาการทำงานบนความ “เชื่อมั่นในพลังของความใส่ใจ” ในทุกมิติ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งด้านความใส่ใจ (The Most Caring Insurance Brand) และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน


นายโชน บอกว่า การดูแลคนที่รัก และครอบครัวไม่ใช่แค่มอบกรมธรรม์ให้ แต่มากวก่านั้นคือความใส่ใจ และ BLAได้หยิบประเด็นดังกล่าวขึ้นมาเพื่อให้การดูแลลูกค้าอย่างใส่ใจ ในทุกๆ ช่วงของชีวิต BLA ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวแทนขายให้สามารถส่งมอบบริการ คำแนะนำ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยได้อย่างถูกต้อง


*มุ่งสู่เบี้ยหมื่นล้านบาท

จากเป้าหมายสร้างการเติบโตเบี้ย FYP หรือ เบี้ยปีแรกสู่ 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (ปี2567 – 2569) ทำให้ BLA เดินกลยุทธ์เชิงรุกต่อเนื่องในการก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยการพัฒนาทั้งในด้านตัวแทนฝ่ายขาย เทคโนโลยี บริการหลังการขาย รวมถึงผนึกพันธมิตรเพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายและมากยิ่งขึ้น


สำหรับปี2567 BLA ตั้งเป้าหมาย ตัวเลขเบี้ย FYP จะเติบโต 10% จากปี 2566 ที่มีเบี้ย FYP อยู่ที่ 6,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามต่อประเด็นการเติบโตได้ตามเป้าหมายหรือไม่นั้น นายโชน แจงว่า เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้ประกาศผลประกอบการไตรมาส3/2567 ในสัปดาห์หน้า จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลที่เป็นการชี้นำกับผู้ลงทุนได้


ส่วนภาพรวมธุรกิจประกันชีวิต นายโชน มองว่ายังมีโอกาสขยายตัว โดยเฉพาะประกันสุขภาพที่ผู้บริโภคให้ความสนใจอย่างมาก จากอัตราค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นเร็วและแรง อย่างไรก็ตาม การเติบโตของประกันสุขภาพ และการเติบโตของภาคธุรกิจจะต้องเป็นไปอย่างยั่งยืน


ดังนั้นประกันสุขภาพที่มีค่าสินไหมในระดับสูง และบางแผนก็มีการขาดทุนจากการรับประกัน เช่นประกันสุขภาพสำหรับเด็ก ดังนั้นเพื่อให้ผู้ประกอบการมีสุขภาพการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่ขาดทุนจนกระทบต่อการจ่ายสินไหมโดยรวม ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานกำกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จึงได้เตรียมใช้ ประกันมีส่วนร่วมในการจ่าย (Co -payment) ในปี 2568 นายโชน ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับภาคธุรกิจประกันภัยของไทย ดังนั้นจึงต้องเดินหน้าให้ความรู้ในเรื่องนี้กับทั้งผู้ประกอบการ ผู้เอาประกัน รวมถึงฝ่ายขาย เพื่อความชัดเจน


*สร้างการรับรู้ “ใส่ใจ”

ด้านนางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้บริหารสายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า เปิดเผยถึงแนวคิดการปรับภาพลักษณ์องค์กรในครั้งนี้ว่า มาจากผลการสำรวจเพื่อต้องการหา Insight กลุ่มผู้บริโภคและลูกค้า ที่มีความคาดหวังต่อธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งพบว่าคนแต่ละเจนเนอเรชั่นมีความต้องการที่ไม่เหมือนกันทั้งผลิตภัณฑ์ ช่องทางการขายและการบริการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนทุกเจนคาดหวังและต้องการเหมือนกันคือ “ความใส่ใจ” ในบริการหลังการขาย ซึ่งการสื่อสารแบรนด์แคมเปญนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคเห็นความแตกต่างและรับรู้ถึงความใส่ใจได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการขยายการรับรู้ และต้องการเข้าไปมีส่วนช่วยด้านการวางแผนการเงินในช่วงเริ่มต้นวัยทำงาน


“แคมเปญ “ใส่ใจ” ครั้งนี้ จะถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง ซึ่งได้ผลมาจากงานวิจัยที่น่าสนใจ คือ ในยุคที่เทคโนโลยีมีผลกับชีวิตผู้คน ทำให้คนส่วนใหญ่มักใช้เวลาในการสร้างความสัมพันธ์ผ่านเทคโนโลยี จนละเลย หลงลืม ขาดความผูกพันที่อบอุ่น โดยเรื่องแรก จะสะท้อนความสัมพันธ์ที่เล็กแต่แข็งแรงที่สุด คือ คนในครอบครัว ด้วยความเชื่อที่ว่า พลังของความใส่ใจ ถ้าในสังคมไทยมีให้กันมากพอ จะทำให้ทุกคนมีความสุข เรื่องที่ 2 คือ เป็นการนำเสนอบริการเสริมที่ได้มาจากการทำวิจัยจากลูกค้าชื่นชอบ คือ Driving Home และ Home Health Care เป็นการดูแล ใส่ใจลูกคา หากลูกค้าเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล หรือ มีการต้องพักรักษาตัวต่อที่บ้าน” นางสาวอรนาฎกล่าวในที่สุด

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X