BCPG โบรกคาดปี 67 รายงานกำไร 2.0-2.9 พันลบ.

#BCPG #ทันหุ้น - โบรกเกอร์ออกบทวิเคราะห์หุ้น BCPG ในวันที่ 7 พ.ย. หลังผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 ออกมาดีกว่าคาด และคาดการณ์การณ์ผลงานในปี 2567 จะมีกำไร 2.0-2.9 พันล้านบาท

บล.เคจีไอ : ดีกว่าคาด แต่แนวโน้มในสหรัฐฯผันผวนขึ้น

BCPG ขาดทุนสุทธิไตรมาส 3/67 ที่ 28 ล้านบาท (จากมีกำไรในไตรมาส 2/67 และ 3/66) ดีกว่าที่คาด จากส่วนแบ่งกำไรโครงการในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและขาดทุน Fx น้อยกว่าคาด โดยการขาดทุนสุทธิเกิดจากผลกระทบจาก Fx อย่างมีนัยสำคัญแต่ทว่า กำไรหลักเติบโต QoQ อยู่ที่ 453ล้านบาท (-8%YoY) หนุนจากโครงการพลังน้ำในลาวและ โครงการก๊าซในสหรัฐฯ ที่อยู่ในช่วงที่ดี อย่างไรก็ตาม การเป็นประธานาธิบดีของทรัมปอาจกดดันอัตรากำไร (margin)ของโครงการก๊าซในสหรัฐฯ ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำถือ โดยปรับราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 6.00 บาท เนื่องจากจิตวิทยานักลงทุนอาจเผชิญกับแรงกดค้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและการปรับเปลี่ยนนโยบายของสหรัฐฯ

บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ : กำไรปกติไตรมาส 3/67 เติบโตสูงมาก QoQ และดีกว่าคาด

กำไรปกติไตรมาส 3/67 เติบโตสูงมาก QoQ และดีกว่าคาด จาก Hydro ในลาวและโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ แต่-3%YoY จากการหมด Adder ในไทย แต่ด้วยขาดทุน FX ก้อนใหญ่ ทำให้ไตรมาส 3/67 ขาดทุน 28 ลบ.

แนวโน้มไตรมาส 4/67 อ่อนลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลของ Hydro ในลาว แต่คาดเติบโต YoY จากปริมาณน้ำในลาวที่ดีเป็นพิเศษและส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าชในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น

คงคำแนะนำ "ซื้อ" จาก Valuations น่าสนใจด้วย P/B 0.6x และแรงหนุนในระยะอันใกล้จากดีล M&A ใหม่

บล.หยวนต้า : กำไรไตรมาส 3/67 ดีกว่าคาด 31%

กำไรปกติงวด 9 เดือน 2567 คิดเป็นสัดส่วน 99% ของประมาณการปี 2567 ของเราที่ 906 ล้านบาท (+4% YoY) ส่งผลให้ประมาณการของเรามี Upside ราว 3-5%

เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 4/67 ที่ราว 40-50 ล้านบาท ลดลง QoQ จาก 1) ปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯและ 2) การปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ประจำปี (ทยอยปิดซ่อมบำรุงในช่วง ต.ค. - พ.ย. โดยจะปิดเป็นระยะเวลา 1-2 สัปดาห์โครงการ) อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติจะยังสามารถทรงตัว เติบโตได้เล็กน้อย YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน แม้ได้รับผลกระทบจากการขายโครงการในญี่ปุ่นและ Adder ของโครงการในประเทศที่หมดอายุลง จากปริมาณน้ำในลาวที่ฟื้นตัวจากการเกิดปรากฎการณ์ลานีญา

หากมองไปปี 2568คาดกำไรปกติที่ 1,234 ล้านบาท เติบโต 36% YoY จากรายได้ของโครงการน้ำในลาวที่ฟื้นตัว YoY จากฐานที่ต่ำ (ผลจากการเกิดปรากฏการณ์ลานีญา) และการทยอย COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ในลาว (ขนาด 600MW, ถือหุ้น 48%) ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 เป็นต้นไป (คาด COD ครบทั้งโครงการภายในช่วงสิ้นปี 2568)

คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ที่ 8.50 บาท/หุ้น มี Upside 34.9% โดยเรามองว่าหุ้นมีโอกาสตอบสนองเชิงบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 3/67 ที่ออกมาดีกว่าคาดในวันนี้ คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับการลงทุนระยะยะยาว