> Trendtalk > PTG

14 พฤศจิกายน 2024 เวลา 06:20 น.

เจาะ PTG

#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,460 หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,450 ลงไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1,430 แต่มีแนวต้านสำหรับการฟื้นตัวในระยะสั้นที่ 1,460


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ PTG หรือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจประกอบด้วย 8 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง (ซึ่งเป็นธุรกิจหลักและธุรกิจเริ่มแรกของบริษัท) และธุรกิจค้าปลีก 2. กลุ่มธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG 3. กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและการลงทุน 4.กลุ่มธุรกิจขนส่ง 5. กลุ่มธุรกิจบริหารและจัดการระบบ 6.กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 7.กลุ่มธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ และ 8. กลุ่มธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)


ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 67 มีกำไร 70 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.04 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 กำไรสุทธิ 19 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.01 บาท


ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ 793 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.48 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน9 เดือน ปี 66 กำไรสุทธิ 408 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.24 บาท


นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 67 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 90.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 424 ล้านบาท โดยรายได้รวมเท่ากับ 167,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 149,286 ล้านบาท


ขณะที่งวดไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 24 ล้านบาท


การเติบโตของรายได้มีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil มีรายได้เติบโตที่ 11.0% เป็น 154,640 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังคงสร้างสถิติยอดขายสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็น 5,013 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้นถึง 13.6% คิดเป็นการจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT จำนวน 4,886 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 14.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) ยังคงเติบโตกว่า 10% เทียบจากปีก่อนหน้า ทั้งจากลูกค้าใหม่ และกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus


รวมถึงปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา จึงส่งผลทำให้บริษัท ครองส่วนแบ่งตลาดผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% เมื่อเทียบกับ 18.7% ในปีก่อนหน้า โดยบริษัทมีการขยายสถานีบริการน้ำมัน PT เพิ่มขึ้น 1.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 2,214 สถานี


สำหรับธุรกิจ Non Oil งวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้จำนวน 12,492 ล้านบาท เติบโต 25.8% โดยการเติบโตของยอดขายเป็นผลมาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย และธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งกาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้จากการขายและการบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ 75.1% เป็นจำนวน 1,540 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยงวด 9 เดือนมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,126 สาขา เพิ่มขึ้น 48.9% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัท ยังคงเป้าหมายอัตราการเติบโตของยอดขายทั้งปี ในธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมธุรกิจ LPG) ไม่ต่ำกว่า 40-50% เมื่อเทียบปีก่อน


รวมทั้งการใช้บริการอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) ยังคงอยู่ในระดับ 20-30% รวมถึงการทำแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท ยังคงวางเป้าหมายการขยายสาขาของกาแฟพันธุ์ไทยเป็น 1,282 สาขา ณ สิ้นปี ซึ่งยังคงเน้นขยายไปในพื้นที่ที่มีศักยภาพ


ในงวด 9 เดือนบริษัท มีสาขาของธุรกิจ Non-Oil รวมทั้งสิ้น 1,878 สาขา (ไม่รวมสาขาธุรกิจ LPG) เพิ่มขึ้น 525 สาขา หรือเติบโต 38.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้รายได้จากธุรกิจ Non-Oil คิดเป็นสัดส่วน 7.5% ของรายได้ทั้งหมดซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า


สำหรับธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil บริษัทยังคงวางแผนขยายสาขาและ Touchpoints อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ เป็นจำนวน 961 Touchpoints เพิ่มขึ้น 329Touchpoints โดยการขยายสาขาจำนวนหลักๆ มาธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs สถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT และสาขาร้านสะดวกซื้อ Max Mart เป็นต้น


แนวโน้มการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทาง และอุปสงค์การใช้น้ำมันในช่วงที่เหลือของปี ยังมีทิศทางที่ดี บริษัทจึงคงเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่ 10-15% ซึ่งได้ Upgrade มาจากเป้าหมายเดิม 8-12% ช่วงต้นปี และคาดว่าจะมีสถานีบริการน้ำมันครบ 2,251 สาขาภายในปีนี้

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.50 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.00 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 8.90 ลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค


ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X