นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/2567บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการ 599.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนและมีกำไรสุทธิ 138.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% โดยหากรวมผลประกอบการ9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการ 1,828.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 368.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36%
ทั้งนี้ 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทสามารถรักษาระดับการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยหลักรายได้มาจากธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ ระยะที่ 1 คลอง 6 และโครงการของหน่วยงานราชการต่างๆ รายได้ของธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและระบบรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ที่มีการขยายการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน และในงวด 9 เดือนของปี 2567บริษัทฯมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมทุนและการร่วมค้าเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 33.80 ล้านบาท
นายฐกร กล่าวต่อไปอีกว่า มติที่ประชุมได้อนุมัติให้บริษัท DITTO ร่วมลงทุนกับบริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ BVG (ถือหุ้นสัดส่วน 35% เท่ากับ DITTO) บริษัทไซเท็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ SITEM (ถือหุ้นสัดส่วน 20%) และบริษัท เน็ตเบย์ จำกัด(มหาชน) หรือ NETBAY (ถือหุ้นสัดส่วน 10%) ด้วยการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลใหม่ มีจดทะเบียน 10,000,000 บาท เพื่อทำธุรกิจ Garage Lending โดยใช้แพล็ตฟอร์มและดาต้าช่วยให้อู่รถยนต์เข้าถึงแหล่งเงินกู้ เพื่อให้มีสภาพคล่องในการทำงานซึ่งแต่เดิมอู่รถยนต์ต้องใช้ทุนตัวเองไปก่อน เมื่องานเสร็จจึงจะเบิกบริษัทประกัน ทำให้ไม่คล่องตัว โดยบริษัทร่วมทุนใหม่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้โดยทำหน้าที่เป็นแฟคตอริ่งสำหรับอู่รถยนต์ คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้เร็วๆนี้ รวมถึงวางแผนที่จะขยายไปยังธุรกิจอื่นๆที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดจากความเชี่ยวชาญร่วมกันของทั้ง 4 บริษัท
สำหรับผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกของปีและไตรมาส 3 ที่ผ่านมานับว่าเป็นตามเป้าหมาย คาดว่าปี 2567 บริษัทจะยังคงรักษาระดับการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม เนื่องจากยังมีแบ็คล็อคในมืออีก 4.6 พันล้านบาท
“การดำเนินงานที่ผ่านมา DITTO ได้รับคะแนนประเมินผลจากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการ บริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 (CGR 2024 )ระดับ 5 ดาวหรือดีเลิศ จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) เป็นการตอกย้ำการดำเนินธุรกิจและการกำกับการดูแลกิจการที่ดีและพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนและยังได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟร็อบให้เป็น1ใน 200 บริษัทยอดเยี่ยมแห่งเอเซียอีกด้วย” นายฐกรกล่าว
ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.new
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม