#ทันหุ้น -บล.เอเซีย พลัส ประเมินหุ้น บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL โรงแรมกรุงเทพฟื้นตัว ชดเชยมัลดีฟส์
ทั้งนี้ จากประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ โทนกลาง หลัง RevPar ต.ค. ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลท่องเที่ยว ขยายตัว 4% YoY หนุนด้วยโรงแรมกรุงเทพฯ และญี่ปุ่น เพิ่ม 15% และ 23% ตามลำดับ ชดเชยได้กับโรงแรมเก่าในมัลดีฟส์ และต่างจังหวัด อ่อนตัว เพราะการปิดปรับปรุงโรงแรมที่พัทยาและภูเก็ต (แล้วเสร็จปีนี้) โดย CENTEL ตั้งเป้า RevPar งวด Q4/67 เพิ่ม 10% YoY (ปกติ RevPar ต.ค.ต่ำสุดในงวด Q4)
ความเห็นฝ่ายวิจัย ภาพรวม RevPar ยังขยายตัว โดยเฉพาะโรงแรมในกรุงเทพฯ (สัดส่วน 30% ของรายได้โรงแรมงวด 9M67) สะท้อนพัฒนาการของโรงแรมที่ Central world (รายได้โรงแรมที่ Central world ต.ค. สูงขึ้น 27% YoY)
ด้านโรงแรมญี่ปุ่น (สัดส่วน 14% ของรายได้โรงแรมงวด 9M67) ในโอซาก้า (ย่านนัมบะ) หลังเปิดดำเนินงานปีที่ 2 อยู่ในระดับที่มีกำไรสุทธิแล้ว ส่วนปีหน้า เนื่องจากที่โอซาก้ามีงาน EXPO 2025 (เม.ย. – ต.ค.) ทาง CENTEL ประเมินหนุนโรงแรมญี่ปุ่นทั้งปีมี Occupancy rate สูงขึ้น 2% และ ADR เพิ่ม 13% -14% YoY
ขณะที่โรงแรมเก่า 2 แห่งในมัลดีฟส์ (CENTEL ถือหุ้น 74% - 75%) แม้ RevPar ต.ค. ลบ 25% YoY เพราะโรงแรมมีอายุมากกว่าคู่แข่ง (บ. ย่อย ในมัลดีฟส์ 2 แห่ง มีกำไรก่อนหัก Minor ปี 2566 ที่ 18 ล้านบาท และปี 2565 ที่34 ล้านบาท) แต่ฝ่ายวิจัยมองว่าการเปิดโรงแรมใหม่อีก 2 แห่ง (เปิดแล้ว 1 แห่ง พ.ย. 67) ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบินมากกว่าโรงแรมเก่า และทั้ง 2 แห่งตั้งอยู่ติดกัน ทำให้การบริหารต้นทุนคล่องตัวกว่าจะช่วยยกระดับพอร์ตโรงแรมในมัลดีฟส์ช่วง 3 ปีข้างหน้า
โดยทาง CENTEL คาดโรงแรมทั้ง 2 แห่งใหม่รวมกัน ปีหน้าอยู่ในจุดคุ้มทุน (BEP) ระดับ EBIT (ขาดทุนสุทธิราว 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) บนเป้าหมาย Occupancy rate ราว 50% (BEP กำไรสุทธิที่ 55% - 60%) และ ADR ตัว 4 – 5 ดาวที่ 440 เหรียญสหรัฐฯ และ 700 เหรียญสหรัฐฯ ต่อห้องต่อคืน
สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ต.ค. SSSG ติดลบ 2% YoY อย่างไรก็ดี EBITDA Margin มีพัฒนาการ หลัง Q3/67 อยู่ที่ 22% (Q3/66 ที่ 18%, Q2/67 ที่ 19%) จากต้นทุนอาหาร คาดมีโมเมนตัมต่อในงวด Q4/67 (Q4/66 ที่ 16.5%) ประกอบกับธุรกิจร้านอาหารเชิง QoQ เข้าสู่ช่วงเฉลิมฉลอง จึงประเมินรายได้และกำไรของธุรกิจร้านอาหารโต QoQ และ YoY ส่วนแผนทำ M&A ธุรกิจร้านอาหาร เพิ่มเติมอยู่ระหว่างศึกษา
โดยรวมแม้งวด Q4/67 ยังมีผลจากค่าใช้จ่ายในการเปิดโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์ราว 140 – 190 ล้านบาท (รวมขาดทุนจากการดำเนินงาน) แต่รายได้โรงแรมและร้านอาหารเข้าสู่ฤดูกาล ช่วยลดแรงปะทะ ประกอบกับกำไรสุทธิ 9M67 คิดเป็นสัดส่วน 84% ของประมาณการทั้งปี (1.4 พันล้านบาท เพิ่ม 41% YoY คงเหลือ Q4/67 ราว 217 ล้านบาท VS 176 ล้านบาทงวด Q3/67) มองว่าประมาณการยังสอดคล้องจึงคงประมาณการ
ราคาหุ้น CENTEL 2 ปีที่ผ่านมาปรับฐานต่อเนื่อง จากจุดสูงสุดช่วง มี.ค.66 ที่ 55 - 58 บาท สะท้อนจุดเปราะบางพอควร ในขณะที่ปีหน้าการกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบของโรงแรมใหญ่ที่พัทยา (สัดส่วนราว 13% - 14% ของรายได้โรงแรม) และโรงแรมญี่ปุ่น เป็นปัจจัยหนุน คงแนะนำ Outperform ประเมินราคาเป้าหมาย 48 บาท
ด้าน บล.กรุงศรี ส่องหุ้น CENTEL บริษัทมั่นใจต่อ Q4/67 และปีหน้า ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ "Trading Buy" ราคาเป้าหมายที่ 40 บาท
โดยอิงจากปัจจัยดังต่อไปนี้: (i) มุมมองเชิงบวกจากข้อความสำคัญในการประชุมกับนักวิเคราะห์ ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้จากทั้งกลุ่มโรงแรมและกลุ่มอาหารจะเติบโตจากช่วงฤดูกาลที่สูงใน Q4/67 และจะสามารถชดเชยค่าใช้จ่ายก่อนเปิดตัวจากมัลดีฟส์ได้ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำรเติบโตใน qoq โดยฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปี 67 (ii) ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นที่ผ่านมาและCENTEL ขณะนี้ซื้อขายที่ P/E 28 เท่าในปี 2568 ซึ่งแสดงให้เห็นถึง upside ที่จำกัดจากราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัย
ขณะที่ บล.ดาโอ คงคำแนะนำ “ซื้อ” CENTEL และราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 44.00 บาท อิง DCF (WACC 7.6%, terminal growth 2.5%) มีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะภาพรวมทั้งธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวได้ดีตามคาด โดยโรงแรมใหม่ 2 แห่งที่มัลดีฟส์น่าจะ Breakeven ที่ NPAT ที่ Occ. Rate ที่ 55-60% เร็วกว่าโรงแรมเดิมเพราะมีการแชร์ค่าใช้จ่ายระหว่างกันได้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากโรงแรมแห่งใหม่ที่มัลดีฟส์ใน 2H67 ทั้งหมดอยู่ที่ราว -150-200 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่ -200-250 ล้านบาท
ส่วน GPM ธุรกิจอาหาร Q4/67 จะยังทรงตัวระดับสูงเมื่อเทียบ QoQ ได้จากการบริหารต้นทุนได้ดีและยังมีการทยอยปิดสาขาที่ไม่กำไร ขณะที่มี M&A 2 ดีลที่กำลังคุยกันอยู่ นอกจากนี้ยังคาดหวังงาน World Expo 2568 ที่ Osaka ช่วง 13 เม.ย.-13 ต.ค.68 จะหนุนให้ ADR ปี 2568 เพิ่มขึ้นอีก +14% YoY และ Occ. Rate จะเพิ่มขึ้นอีก +2% ไปอยู่ที่ราว 80%
ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +15% YoY ขณะที่คาดกำไรปกติ Q4/67 จะเพิ่มขึ้น QoQ จากการเข้าสู่ช่วง High season ของไทย, มัลดีฟส์และญี่ปุ่น ขณะที่กำไรปกติปี 2567 จะเพิ่มขึ้นได้อีก +18% YoY ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงสุดเมื่อเทียบกับ MINT และ ERW เพราะได้รับแรงหนุนจากการไม่มีค่าใช้จ่ายที่สูงเหมือนปี 2567 และรับรู้โรงแรมที่ Renovate 2 แห่ง (ภูเก็ตและพัทยา) ได้เต็มปี เพราะจะดำเนินการได้ตั้งแต่ช่วงปลาย พ.ย.- ต้น ธ.ค.67
ราคาหุ้นปรับตัวลดลง -9%/-12% ในช่วง 1 เดือน/ 3 เดือนที่ผ่านมา เพราะกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่มากกว่าคาด ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นน้อยกว่าคาด ส่วนธุรกิจอาหารทำกำไรได้ดีขึ้นหลังจากปิดสาขาที่ไม่กำไรออกไป ด้าน Valuation ซื้อขายที่ 2567 EV/EBITDA ที่ 11.7x (-1.25SD below 8-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW ที่ 14.6x ขณะที่กำไรปกติปี 2568 จะเติบโตได้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับ MINT และ ERW
ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม