> SET > STEC

19 พฤศจิกายน 2024 เวลา 09:30 น.

STECON โบรกคาดปี 67 ขาดทุน บล.ทิสโก้ลดเป้าราคาหุ้น


#STECON #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์หุ้น STECON โดย บล.ทิสโก้


STECON : ค่าใช้จ่ายซ่อมแซมโครงการหนองบอนกดดันผลประกอบการ

ปีนี้จะขาดทุน แต่คาดการณ์การฟื้นตัวของกำไรในปีหน้า

STECON รายงานผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/67 อย่างน่าประหลาดใจ สาเหตุหลักมาจากรายได้งานก่อสร้างและอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่คาด (เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมจากโครงการระบายน้ำหนองบอน) คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเพิ่มเติมสำหรับโครงการหนองบอนจนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/68 ดังนั้น เราคาดว่าบริษัทจะขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/67 (และปี 2567) และมีกำไรเพียงเล็กน้อยในครึ่งปีแรก 2568 ค่าชดเชยจากประกัน (หากมี) จะเป็นปัจจัยบวกต่อประมาณการของเรา เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ"


ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมส่งผลกระทบต่อกำไรในไตรมาส 3/67

STECON รายงานขาดทุนสุทธิ 147 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้ง YoY และ QoQ จากกำไร 130 ล้านบาทและ 25 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก: 1) รายได้งานก่อสร้างลดลง 7%YoY และ 13% QoQ เนื่องจากบางโครงการอยู่ในช่วงก่อสร้างระยะสุดท้าย (เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 5 แห่ง) 2) อัตรากำไรขั้นต้นหดตัวทั้ง YoY และ QoQ จาก 4.5% และ 2.8% เหลือ 3.6% สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมโครงการระบายน้ำหนองบอนมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท (หากไม่รวมรายการนี้ อัตรากำไรขั้นต้นยังคงต่ำกว่าที่คาดที่ประมาณ 4.6%) 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 72% YoY (แต่ลดลง 3% QoQ) จากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 20 ล้านบาทจากโครงการการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย และ 4) ส่วนแบ่งขาดทุนที่เพิ่มขึ้น YoY เป็น 142 ล้านบาทจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู (เปิดให้บริการสายสีชมพูในกุมภาพันธ์ 2567) แต่ลดลง QoQ จากขาดทุน 166 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารของสายสีเหลืองและสีชมพูเพิ่มขึ้น 28% และ 17% QoQ จากการกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบของสายสีเหลืองเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน (หลังซ่อมแซมราวนำกระแสไฟฟ้าที่ชำรุดเสร็จสิ้น) และการเข้าสู่ high season


กำไรยังคงอ่อนแอจนถึงไตรมาส 2/68 ก่อนจะฟื้นตัว

เราคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหนองบอนเพิ่มเติมจนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/68 (ไตรมาส 4/67 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 50-60 ล้านบาท) ดังนั้น เราคาดว่าบริษัทจะบันทึกผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/67 (และปี 2567) และมีกำไรเล็กน้อยในครึ่งปีแรก 2568 ปัจจัยขับเคลื่อนกำไรสำหรับปีหน้า ได้แก่ 1) การปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น (จากค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่ลดลง) 2) การเติบโตของรายได้เนื่องจากบริษัทคาดว่าจะชนะการประมูลโครงการใหม่มูลค่า 40 พันล้านบาทก่อนสิ้นปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ปี 2568 และ 3) โอกาสจากค่าชดเชยประกันสำหรับโครงการหนองบอน (ยังไม่รวมในประมาณการของเรา) จากโครงการใหม่มูลค่า 40 พันล้านบาทที่คาดว่าจะชนะการประมูล 6.6 พันล้านบาทมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 7 แห่ง 6 พันล้านบาทจากอาคารห้างสรรพสินค้าใหม่ และ 28-30 พันล้านบาทจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ ยอดรวมนี้ไม่รวมโครงการ Data center มูลค่า 7.2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะลงนามในไตรมาส 1/68 โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 15-18 เดือน ส่วนแบ่งขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูควรค่อยๆ ลดลงเมื่อจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น


คงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ STECON ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมที่ปรับปรุงใหม่ที่ 8.70 บาท

เราปรับลดประมาณการเพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมถึงดอกเบี้ยที่สูงกว่าที่คาด เรายังปรับการประเมินมูลค่าแบบ SOTP ไปที่กำไรปี 2568 และได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 8.70 บาท ลดลงจาก 8.90 บาท เนื่องจากมีโอกาสเติบโตที่จำกัด เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ" ความเสี่ยงหลักคือการขาดโครงการใหม่ ต้นทุนที่สูงเกินงบ การเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัสดุและค่าแรง ค่าชดเชยประกันเป็นปัจจัยบวก




ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X