#TTA #YUANTA #ทันหุ้น-สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน สัปดาห์นี้ผมเริ่มกังวลกับสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนมากขึ้น เพราะเริ่มสังเกตเห็นค่าเงินรูเบิลของรัสเซียกลับมาอ่อนค่าเร็ว โดยล่าสุดอยู่ที่ 101 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับสถานการณ์ความรุนแรงรอบก่อนช่วงกลางปี 2565 ซึ่งสะท้อนว่าความกังวลต่อสถานการณ์เริ่มกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับดัชนีตลาดหุ้นรัสเซีย (MOEX) ที่อ่อนตัวลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน นอกจากนี้ ราคาทองคำและ Dollar Index ที่ปรับตัวขึ้น ยังสะท้อนว่ากระแสเงินไหลเข้าพักใน Safe Haven เพื่อรอดูความชัดเจนด้วย

โดยถึงแม้ว่าสถานการณ์ล่าสุดจะเป็นการตอบโต้กันไปมา แต่เริ่มใช้อาวุธที่มีความรุนแรงมากขึ้น และท่าทีของประธานาธิบดีรัสเซียเริ่มให้ความเห็นในเชิงแข็งกร้าวต่อการตอบโต้สหรัฐและชาติพันธมิตรมากขึ้น ทำให้ผมกังวลว่าสถานการณ์ยังไม่น่าไว้ใจ และมีโอกาสรุนแรงได้ทุกเมื่อ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด จนกว่าจะมีความชัดเจนว่าจะคลายตัว

สำหรับหุ้นที่น่าจับตาสัปดาห์นี้ คือ TTA หรือบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) เป็นธุรกิจลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยลงทุนในธุรกิจหลัก 5 กลุ่มได้แก่ กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มการลงทุนอื่น

ซึ่งหลังจากที่ผมพิจารณาข้อมูลของ TTA จากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและงบการเงินถือว่ามีหลายประเด็นน่าสนใจ ผลประกอบการ 3Q/67 ที่ขาดทุนสุทธิ -1,089 ล้านบาท เป็นเพราะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพราะเงินบาทที่แข็งค่าเป็นหลัก แต่ผลประกอบการปกติยังมีกำไร แต่ Operation ยังมีกำไรปกติ 353 ล้านบาท ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมราคาหุ้นไม่ขึ้นสะท้อนมูลค่า Bitcoin ที่ถืออยู่ ผมคาดว่าตลาดอาจจะยังไม่รับรู้ประเด็นนี้มากนัก และคาดว่าเป็นเพราะนักลงทุนเห็น PSL อ่อนแรง ซึ่งเป็นเรื่องของ PSL ที่ไปซื้อ VL แต่ค่าระวางเรือที่ 1,576 จุด ยังสูงกว่าต้นทุนที่ราว 800-900 จุด เพราะฉะนั้น จะเอา TTA ไปเทียบกับ PSL ณ ตอนนี้ที่อยู่ในช่วงทำดีลไม่ได้

แนวโน้มผลประกอบการ 4Q/67 ผมคาดว่าจะกลับมามีกำไรสุทธิสูง เพราะทุกธุรกิจมีกำไร และจะมีกำไรจากค่าเงินบาทเข้ามาช่วย จึงไม่ต้องห่วงว่างบจะแย่ โดยเงินบาทที่อ่อนค่าทุก 1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะมีกำไรจากการแปลงค่างบการเงินราว 250-300 ล้านบาท ตอนนี้อ่อนค่ามาแล้ว 2.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐจากสิ้น 3Q/67

ราคาหุ้น Mermaid ที่สิงคโปร์กลับมาปรับตัวขึ้น 6% ในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการของ Mermaid ที่ดีขึ้น ซึ่งมีสัดส่วน EBITDA สูงประมาณ 39%

มูลค่า Bitcoin ที่ถืออยู่มีต้นทุนราว 3 พันล้านบาท คาดว่ามูลค่าปัจจุบัน (เราคาดว่า TTA ถืออยู่ราว 2,500 Bitcoin) จะอยู่ที่ราว 9 พันล้านบาท ใกล้เคียง Market Cap. ของ TTA ที่ 1 หมื่นล้านบาท และมีมูลค่ามากกว่าหนี้สินสุทธิ (หนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย - เงินสด) ที่ 6.9 พันล้านบาท นั่นหมายความว่า ถ้า TTA ขาย Bitcoin แล้วนำเงินไปคืนนี้ จะเป็นบริษัทที่ปลอดหนี้ทันที

เฉพาะกำไรจากการถือ Bitcoin อยู่ที่ 6 พันล้านบาท หรือ 3.3 บาทต่อหุ้น ที่แฝงอยู่ในงบการเงิน เท่ากับว่าตลาดให้มูลค่าธุรกิจเรือเทกอง, ธุรกิจของ Mermaid, และอื่นๆ เพียง 2.5 บาทต่อหุ้น เทียบเท่าช่วง COVID-19 ที่ทุกธุรกิจหยุดชะงัก Downside ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ณ ตอนนี้จึงแทบไม่มี

ราคาหุ้นซื้อขายบน P/BV ที่ 0.4 เท่า คิดเป็น -1 S.D. ของค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง ถือว่าอยู่ในโซนที่ไม่แพง ทางเทคนิคอยู่ในเขต Oversold เช่นกัน โดยมีแนวรับที่ 5.60-5.70 บาท และแนวต้านที่ 6.30-6.50 บาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/