#KTB #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
SML เพิ่มขึ้น โดยมีการก่อ NPL ใหม่น้อยลง
การก่อ Nonperforming loan (NPL) ใหม่ไตรมาส 3/67 ลดลงเป็น 0.58% หลังหนี้เสียจากการปรับโครงสร้างหนี้ลดลง และการปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้นตามมาตรการของ ธปท.
Special mention loan (SML) ไตรมาส 3/67 เพิ่มเป็น 6.6%หนุนโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อธุรกิจคาดว่ามาจากสถาบันการเงินปรับโครงสร้างก่อนกำหนดเพื่อชะลอการก่อ NPL ใหม่
คุณภาพสินทรัพย์ยังคงได้รับแรงกดดัน โดยมี credit cost ที่คาดว่าจะสูงและความเสี่ยงในสินเชื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่ KTB ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มธนาคาร
Investment Topics
การก่อ NPL ใหม่ลดลงเล็กน้อยในไตรมาส 3/2567 การก่อหนี้เสีย (NPL) ใหม่ของหุ้นกลุ่มธนาคารทั้งหมดลดลงเป็น 0.58% ของสินเชื่อรวมไตรมาส 3/2567 จาก 0.61% ในไตรมาส 2/2567สาเหตุหลักมาจากอัตราการกลับมาเป็นหนี้เสียหลังปรับโครงสร้างหนี้ ที่ลดลงเป็น 0.23% จาก 0.26% ในช่วงเวลาเดียวกัน การลดลงของการก่อ NPL ใหม่ส่วนใหญ่มาจากภาคการค้าส่งและค้าปลีก บริการ และการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน กิจกรรมการปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนจากการการก่อ NPL ใหม่ที่ลดลงตามการปรับโครงสร้างหนี้ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 0.11% ของสินเชื่อรวมไตรมาส 3/2567 จาก 0.09% ในไตรมาส 2/2567ซึ่งอาจเป็นผลมาจากมาตรการการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
SML เพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วขึ้น แม้ว่า NPL จะลดลง แต่สินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ(SML) กลับเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วขึ้นในไตรมาส 3/2567 โดยแตะระดับ 6.6% ของสินเชื่อรวมเมื่อเทียบกับ 6.2% ในไตรมาส 2/2567ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลดลงของการก่อ NPL ใหม่ อาจเป็นมาจากการปรับโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินก่อนกำหนดเพื่อชะลอการย้าย SML ไปเป็น NPL ขณะที่ SML ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น บริการ การผลิต ค้าส่งและค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์
แนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ยังคงอ่อนแอ เราคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost)จะยังคงสูงในไตรมาส 4/2567 เนื่องจากระดับ SML คาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าการก่อ NPL ใหม่จะลดลงก็ตาม ขณะเดียวกัน หลังจากที่อุตสาหกรรมสินเชื่อเช่าซื้อ (HP) ต้องประสบกับผลขาดทุนเป็นจำนวนมากจากรถถูกยึดในช่วงครึ่งหลังของปี 2566-ครึ่งแรกของปี 2567สินเชื่อที่อยู่อาศัยจึงดูเปราะบางมากขึ้นจากระดับ SML ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและความต้องการที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ recovery rate ในปี 2568 โดยเฉพาะ SCB และ TTB มีความเสี่ยงด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงสุดที่ประมาณ 30% และ 25% ของสินเชื่อทั้งหมด ตามลำดับ
Valuation and Recommendation
บล.กสิกรไทยคงมุมมองเชิงลบต่อกลุ่มธนาคาร เนื่องจากมีแนวโน้มว่ากลุ่มธุรกิจนี้จะยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่อง จาก 1) การเติบโตของสินเชื่อที่คาดว่าจะอ่อนแอในปี 2568 จากหนี้ครัวเรือนที่สูง 2) อัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ลดลง จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 และ 3) ความเสี่ยงต่อคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังคงมีอยู่ เราเชื่อว่ามาตรการผ่อนปรนหนี้ของ ธปท. จะเพียงแต่ชะลอการก่อ NPL ใหม่ในปี 2568 เท่านั้น
ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม