คุณฐิติพงศ์ ศาสตร์ศิริ Investor Relations บริษัท กิฟท์ อินฟินิท จํากัด (มหาชน) หรือ GIFT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2568 ไว้ระดับ 3 พันล้านบาท เติบโตจากปี 2567 ที่ประมาณการไว้ราว 2.5 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรับรู้รายได้กลุ่มกลุ่มเทคโนโลยีและอิโนเวชั่นเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ต่างๆ เข้ามาเต็มปี รวมทั้งยังจะมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่เข้ามาเสริม
แตกไลน์สัตว์เลี้ยงโกยเงิน
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้มีการขยายไลน์ธุรกิจใหม่เพิ่มเติมในส่วนของ “PETALL Flagship Store” หลังมองแนวโน้มอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างโดด ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลล่าสุดนั้นมีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 40% จึงมองเป็นโอกาสและหันมาขยายธุรกิจในส่วนนี้เพิ่มเติม
สำหรับ “PETALL Flagship Store” นั้นประกอบด้วยส่วนต่างๆ ได้แก่ Pet shop, Dog cafe, Grooming โดยสินค้าประมาณ 50-70% นั้นเป็นกลุ่มสินค้าพรีเมียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ และอีก 30% เป็นสินค้าโลคอลแบรนด์ที่มีคุณภาพสูง
โดยในปี 2568 ทางบริษัทมีแผนทุ่มเงินลงทุนประมาณ 65 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาในกลุ่มธุรกิจใหม่ประมาณ 10 สาขา และคงมีแนวทางขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายรายได้ในกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยงรวมคงจะขยับไปอยู่ประมาณ 400-500 ล้านบาท
ชงผู้ถือหุ้นเปลี่ยนชื่อ
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับประเด็นการเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม “GIFT Infinite” เป็น“RSXYZ” ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ และน่าจะได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อในวันดังกล่าว
สำหรับชื่อใหม่ RSXYZ จะมุ่งเน้นในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย อันได้แก่ ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจเวลเนส ธุรกิจฮอสพิทอลลิตี้ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจการศึกษา ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญของสังคมและวัฒนธรรมไทย
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาทางบริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด(มหาชน) หรือGIFT ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2567 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2024 : CGR) ในระดับ4 ดาว หรือ “ดีมาก” จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย(IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีในมิติ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) ควบคู่การเดินหน้าขยายธุรกิจ และสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้น ด้วยผลการดำเนินงานที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM Checklist) ประจำปี 2567 ในระดับ 5 เหรียญ (100 คะแนนเต็ม ดีเยี่ยมสมควรเป็นตัวอย่าง) จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยและสภาธุรกิจตลาดทุนไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างเท่าเทียมกัน ตลอดจนพัฒนาประสิทธิภาพในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม