#JMT #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.บัวหลวง
มุมมองปี 2568 - เน้นธุรกิจบริหารหนี้แบบไม่มีหลักประกัน
บล.บัวหลวงคาดว่า JMT จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าบริษัท BAM ในปี 2568 เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่ของ JMT เป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งการชำระหนี้ดังกล่าวจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า เราปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนจาก "น้อยกว่าตลาด" เป็น "เท่ากับตลาด" และเราชอบ JMT มากที่สุดในกลุ่มฯ (แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 22.00 บาท)
ธุรกิจหนี้ที่ไม่มีหลักประกันจะฟื้นตัวในปี 2568...
การเก็บเงินสดของ JMT น่าจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/67 ถึงปี 2568 เนื่องจากเราคาดว่าผู้ค้างชำระหนี้ที่ยืดเยื้อจะเริ่มชำระเงินรายเดือน หลังจากที่บริษัทเริ่มดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างจริงจังตั้งแต่ไตรมาส 2/67 นอกจากนี้ เราพบสองตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่เราคาดว่าจะหนุนการเก็บเงินสดของบริษัทในไตรมาส 4/67 ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนเฉลี่ยอยู่ที่ 153.8 ในไตรมาส 3/67 เพิ่มขึ้น 0.2%YoY และเพิ่มขึ้น 0.9% QoQ ส่วนดัชนีค้าปลีกเฉลี่ยในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 139.8 เพิ่มขึ้น 24.7% YoY และเพิ่มขึ้น 4.4%QoQ นอกจากนี้เราคาดว่าดัชนีการบริโภคภาคเอกชนและดัชนีค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในไตรมาส 4/67 ซึ่งโดยปกติจะสัมพันธ์กับการเก็บเงินสดที่มากขึ้นของ JMT
จากการศึกษาข้อมูลในอดีตของเราพบว่าในช่วงปี 1/61 - 3/67 การเก็บเงินสดของบริษัทมีความสัมพันธ์ 76% กับดัชนีการบริโภคภาคเอกชน และ 68% กับดัชนีค้าปลีก ซึ่งหมายความว่า การเก็บเงินสดของ JMT มักจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนและ/หรือดัชนีค้าปลีกเพิ่มขึ้น
...แต่ธุรกิจหนี้ที่มีหลักประกันยังคงอ่อนแอ
ธนาคารได้เข้มงวดในการคัดกรองสินเชื่อสำหรับผู้สมัครสินเชื่อรายใหม่ในปีนี้ ดังนั้น สินเชื่อของธนาคารในกลุ่มที่เราให้คำแนะนำ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2567 อยู่ ที่ 11.9 ล้านล้านบาท ลดลง 3% YoY และลดลง 2% QoQ แม้ว่าเราคาดว่าในปื 2568 การเติบโตของสินเชื่อรวมในกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำจะอยู่ที่ 2.5% YoY แต่ธนาคารไม่น่าจะผ่อนคลายการคัดกรองสินเชื่อสำหรับผู้สมัครใหม่ในสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ (เกี่ยวข้องกับลูกหนี้ด้อยคุณภาพกับ BAM) ในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น ลูกหนี้เหล่านั้นจำนวนมากจึงประสบปัญหาในการขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อชำระหนี้ที่มีหลักประกันหรือซื้อสินทรัพย์รอการขายได้ นอกจากนี้ ลูกค้าของ BAM บางรายกำลังเลื่อนการตัดสินใจซื้อหนี้หรือสินทรัพย์รอการขายขนาดกลางถึงใหญ่ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นเราคาดว่าธุรกิจบริหารหนี้ที่มีหลักประกันของ BAM จะยังคงอ่อนแอต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568
จากการศึกษาข้อมูลในอดีตพบว่าช่วงไตรมาส 1/63-3/67 สินเชื่อรวมของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำและการเก็บเงินสดของ BAM มีความสัมพันธ์กันที่ 49% ซึ่งหมายความว่าการเก็บเงินสดของ BAM มักจะลดลงในช่วงที่สินเชื่อรวมของธนาคารลดลง
เมื่อไรที่ธุรกิจซื้อหนี้ที่มีหลักประกันจะเริ่มฟื้นตัว?
เราคิดว่าจุดเปลี่ยนสำหรับธุรกิจซื้อหนี้ที่มีหลักประกันจะเกิดขึ้นเมื่อการเติบโตของ GDP เริ่มเร่งตัวขึ้นและธนาคารผ่อนคลายการคัดกรองสินเชื่อ เมื่อถึงเวลานั้น ลูกหนี้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากหลายรายน่าจะได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารเพื่อใช้ในการซื้อหนี้ที่มีหลักประกันและสินทรัพย์รอการขายจาก BAM ซึ่งจะหนุนรายได้และกำไรของ BAM ให้เพิ่มขึ้น
ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม