นายศิวพงศ์ บุญสาลี ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยภายใต้แบรนด์ ศักดิ์สยามลิสซิ่ง เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทวางเป้าหมายการขยายพอร์ตสินเชื่อปี 2568 เพิ่ม 15% จากสิ้นปีที่ผ่านมา โดยคาดการความต้องการบริการด้านสินเชื่อในตลาดยังมีต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทพร้อมให้บริการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการตอบโจทย์ความต้องการสินเชื่อครบในทุกมิติที่เข้าถึงได้ง่าย
ปัจจุบันบริษัทมีบริการได้แก่ สินเชื่อทะเบียนรถเป็นประกัน สินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อทะเบียนรถเพื่อการลงทุน สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่มีที่ดินเป็นประกัน สินเชื่อโดรนเกษตร และสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อป โดยเฉพาะสินเชื่อทะเบียนรถ และสินเชื่อที่ดิน ยังมั่นใจว่าการเติบโตจะโดดเด่นจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่า จากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในระบบที่ยังทรงตัวสูงทำให้ในปีนี้บริษัทจำเป็นต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง รัดกุมเข้มงวดมากขึ้น พร้อมกันกับใส่ใจดูแลลูกค้าให้มากกว่าเดิม ซึ่งบริษัทสามารถบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตได้ดี มีอัตราหนี้เสียหรือ NPL เพียง 2.5-2.6% เท่านั้นซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม และมั่นใจจะรักษาอัตราหนี้เสียไว้ที่ระดับดังกล่าวได้ต่อไป
@ขยายสาขา
ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมีสาขาให้บริการ 1,051 แห่ง ใน 47 จังหวัด ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยตลอดราว 1 ปียังไม่มีการเพิ่มสาขาใหม่เป็นไปตามกลยุทธ์แผนงาน แต่ในปีนี้บริษัทจะเร่งเปิดสาขาทั้งหมด 50 แห่ง ภายในไตรมาส 1/2568 เพื่อรองรับการสร้างฐานลูกค้าใหม่ ประมาณการเงินลงทุนต่อสาขา 2-3 แสนบาท
ส่วนในไตรมาส 2/2568 จะไม่มีการเปิดสาขาเพิ่มแล้ว และบริษัทจะกำหนดกลยุทธ์จำนวนการเปิดสาขาใหม่อีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
นายศิวพงศ์ กล่าวอีกว่า จำนวนสาขาให้บริการที่เพิ่มขึ้นยังเป็นการสนับสนุนธุรกิจสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปหลังจากปีก่อน บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อยคือ บริษัท ศักดิ์สยาม โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ถือหุ้น 100%
บริษัทคาดการณ์ความต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปที่อยู่อาศัยเพื่อประหยัดพลังงานจะสูงอย่างมีนัยในครึ่งแรกของปี โดยเฉพาะช่วงเริ่มฤดูร้อน ทั้งนี้สำหรับสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปปีนี้บริษัทประเมินรายได้ไว้ที่ 100 ล้านบาท
@คุณสู้ เราช่วย
ด้านนโยบายภาครัฐบาลที่มีความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจมองว่าส่งผลดีกับภาพรวมประเทศ และทำให้ลูกหนี้แข็งแรงขึ้นด้วย ซึ่งในส่วนของบริษัทในฐานะผู้ที่ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อรายย่อย หรือ นอนแบงก์ จะให้ความร่วมมือมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย”ของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้บรรเทาผลกระทบเศรษฐกิจ
แม้บริษัทไม่มีข้อมูลโดยตรง แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนลูกค้าบริษัทในขอบข่ายที่คาดจะได้รับสิทธิความช่วยเหลือผ่านโครงการ ซึ่งเมื่อบริษัทช่วยเหลือลูกค้าเหล่านี้แล้ว บริษัทเองก็จะได้เงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารของรัฐบาลอีกทอดสำหรับชดเชยส่วนกิจการผู้สมัครเข้าร่วม เบื้องต้นประเมินเงินจำนวนที่จะได้ไม่มีนัยใดต่อผลประกอบการ
นายศิวพงศ์ บุญสาลี เปิดเผยอีกว่า ผลประกอบการบริษัททั้งไตรมาส 4/2567 และรวมทั้งปี 2567 เป็นไปตามแผนงานที่มีเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อเติบโตอย่างน้อย 15% หรืออาจมากกว่าเป้าหมาย 14,300 ล้านบาท พร้อมกับมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพของสาขาเดิมให้ดีขึ้น บริหารจัดการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทั้งรายได้รวมทั้งปีมากกว่าปี 2566 ที่ทำได้ 2,739.76 ล้านบาท ภายใต้การตั้งค่าเผื่อสงสัยหนี้จะสูญควบคุมได้ดี และความสามารถทำกำไรที่ดีขึ้นด้วย
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม