#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,383 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับสำคัญที่ 1,370 กลับขึ้นไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,400-1,410

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ BLA หรือ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจประกันชีวิตและบริการวางแผนทางการเงินอย่างรอบด้าน โดยการประกันชีวิตเป็นวิธีการที่บุคคลกลุ่มหนึ่งร่วมกันเฉลี่ยภัยอันเนื่องจากการเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และการสูญเสียรายได้ในยามชรา เมื่อบุคคลใดต้องประสบกับภัยเหล่านั้น จะได้รับเงินตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ตกลงกันไว้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ตนเองและครอบครัว โดยบริษัทจะจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยหรือผู้รับผลประโยชน์

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 67 มีกำไร 614 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.36 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 มีกำไร 644 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.33 บาท

ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไร 2,669 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.56 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 มีกำไร 2,190 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.28 บาท

นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจประกันยังมีการเติบโตที่ดี แม้ว่าที่ผ่านมาอาจมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนไปบ้าง ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง โดยผลประกอบการไตรมาส 3/67 จะเปิดเผยในสัปดาห์หน้า

ซึ่งภาพรวมในไตรมาส 4/67 เป็นไตรมาสที่เติบโตสูงสุด เนื่องจากประชาชนนิยมซื้อประกันเพื่อนำมาลดหย่อนภาษี โดยบริษัทได้มีการออกแบบประกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้วางเป้าหมายที่ท้าทายใน 3 ปี(67-69) ที่คาดว่า จะมีเบี้ยประกันรับปีแรกรวมแตะ 1 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันรับปีแรกเติบโตมากกว่า 10%จากปีก่อน 6,500 ล้านบาท โดยจากข้อมูลสมาคมประกันชีวิตไทย 8 เดือน(ม.ค.-ส.ค. 67) บริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรก อยู่ที่ 4,544 ล้านบาท และ มีส่วนแบ่งทางการตลาด อยู่ที่ 3.92%

สำหรับสินทรัพย์การลงทุนรวม ปัจจุบัน อยู่ที่ 300,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในพันธบัตร และ หุ้นกู้ ประมาณ 85% และ อีก 15% ลงทุนในหุ้น กองรีท และ เงินกู้ ถึงแม้ว่า ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจ และ ดอกเบี้ยจะมีความผันผวน แต่บริษัทเน้นลงทุนในระยะยาว ไม่ใช่ลงทุนในระยะสั้น

ส่วนดอกเบี้ยสหรัฐ แม้จะลดลงล่าสุด แต่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี กลับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.3% จากเดิม 3.8% เรามองตลาดไปในระยะยาว ลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 20.00 หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องที่แนวต้าน 25.00-25.50 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 24.00 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 20.00 ลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค